ผู้นำลัทธิชินจอนจีขอขมาชาวเกาหลีใต้ หลังพา ‘โควิด-19’แพร่ทะลุ4300คน

นายลี มัน-ฮี ผู้ก่อตั้งและผู้นำลัทธิชินชอนจี วัย 88 ปี แถลงข่าวที่บ้านพักในเมืองคาพย็อง จ.คย็องกี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ในวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า เขาขอโทษชาวเกาหลีใต้ทั้งประเทศและมีความเสียใจอย่างยิ่ง กรณีที่โบสถ์ของลัทธิชินชอนจิ ในเมืองแทกู กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ จนทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 4,300 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน

นายลีได้คุกเข่าและก้มศีรษะลงกับพื้น 2 ครั้งเพื่อขอขมารัฐบาลเกาหลีใต้และประชาชน และเขายังยืนยันด้วยว่า ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทางการกรุงโซลยื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการขอให้มีการดำเนินคดีกับนายลีและสมาชิกระดับแกนนำของลัทธิอีก 11 คน ฐานปิดบังซ่อนเร้นข้อมูลและไม่ให้ความร่วมมือกับทางการ ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

หล่าสาวกชินชอนจียกย่องนายลีว่าเป็น “ศิษยาภิบาลแห่งพันธะสัญญา” ที่จะนำสาวก 144,000 คนไปสวรรค์พร้อมกับเขาในวันพิพากษาโลก แต่กลุ่มของเขามักถูกประณามว่าเป็นลัทธินอกรีต

ก่อนหน้านี้มีสาวกชินชอนจีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิง วัย 61 ปี ป่วยเป็นไข้มาตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. แต่ยังเข้าร่วมในพิธีสวดอย่างน้อย 4 ครั้งในเมืองแทกู เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ก่อนถูกตรวจพบในภายหลังว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 เป็นรายที่ 31 ของประเทศ และได้แพร่เชื้อให้กับคนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้กำลังเร่งตรวจโรคสมาชิกลัทธิชินชอนจิกว่า 200,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงนายลี ซึ่งเข้ารับการตรวจเมื่อวันเสาร์ (29 ก.พ.) ที่ผ่านมา และผลออกมาว่าเขาไม่ติดเชื้อ