
นักข่าวพลเมือง หายตัวไร้ร่องรอยในอู่ฮั่น

เฉิน ฉิวซื่อ อดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชน วัย 34 ปีเดินทางไปถึงเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อวันที่ 24 ม.ค. เพียงหนึ่งวันหลังทางการสั่งปิดเมืองเพื่อยับยั้งการระบาด เขาตระเวนสำรวจโรงพยาบาลหลายแห่ง สถานที่เก็บศพสัมภาษณ์ชาวบ้านและสมาชิกครอบครัวผู้ป่วย เผยแพร่ภาพและคลิปสู่โลกภายนอกผ่านทางยูทูบและทวิตเตอร์ ที่มีสมาชิกกว่า 439,000 คนและผู้ติดตาม 253,000 คนตามลำดับ

ในคลิปที่เฉินบันทึกในห้องพักโรงแรมและโพสเมื่อวันที่ 30 ม.ค. เขาบอกเล่าถึงสถานการณ์จริงของการระบาดในเมืองอู่ฮั่น เขาย้ำหลายครั้งว่าจะรายงานเฉพาะสิ่งที่เห็น หรือ ได้รับการบอกเล่าโดยตรง จะไม่สร้างความหวาดกลัวหรือแพร่ข่าวลือ และจะไม่ปกปิดความจริง เขาเล่าว่า อู่ฮั่นไม่มีระบบขนส่งเพียงรองรับคนไปหาหมอโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อจำกัดสำหรับใช้กับคนที่มีอาการวิกฤต ผู้ป่วยบางคนเข้าข่ายต้องสงสัย ต้องรอหลายวันกว่าจะได้ตรวจ ส่วนผู้ติดเชื้อก็ยังไม่มีหน้ากากอนามัย และหญิงชราคนหนึ่งต้องประคองศพชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถเข็นระหว่างรอรถยนต์เพื่อนำศพไปยังสถานที่เก็บศพเขาบอกด้วยว่า "รู้สึกกลัว ตรงหน้าก็มีไวรัส ข้างหลังก็มีผู้บังคับใช้กฎหมายของจีนแต่หากยังมีชีวิตอยู่ ก็จะยังพูดสิ่งที่เห็นและได้ยินต่อไป ผมไม่กลัวตาย แล้วทำไมต้องกลัวพรรคคอมมิวนิสต์"
คลิปนี้มีคนเข้าดูกว่า 2 ล้านครั้งและความเห็นกว่า 35,000 ข้อความ ซึ่งหลายความเห็นแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขา และบางคนช่วยแปลและขึ้นซับไตเติ้ลให้เพื่อหวังให้มีคนเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการสื่อสารในวงกว้างขึ้น

แต่ขณะนี้ทั้งครอบครัวและเพื่อนของนักข่าวพลเมืองรายนี้แสดงความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขา หลังจากเขาหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ไม่มีใครพบเห็นหรือติดต่อเขาได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 6 ก.พ. และในวันรุ่งขึ้นเพื่อนๆช่วยโพสคลิปภาพแม่ของเขาเรียกร้องให้ชาวเน็ตโดยเฉพาะในอู่ฮั่นช่วยตามหาเขา บรรดาเพื่อนสนิท บอกว่า เฉินให้ล็อกอินเข้ายูทูบและทวิตเตอร์ไว้เผื่อกรณีที่เขาอาจถูกเจ้าหน้าที่หิ้วตัวไป ต่อมาในค่ำวันเดียวกันเพื่อนของเฉินอีกคน เผยผ่านไลฟ์สดทางยูทูบว่า ครอบครัวของเฉินได้รับข่าวจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมืองชิงเต่าว่า เฉินถูกควบคุมตัวเพื่อกักโรค แต่ไม่ยอมให้รายละเอียดใดๆ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกเขาถูกทางการจีนสั่งให้ปิดปากเงียบ เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เขาไปฮ่องกงเพื่อรายงานการประท้วงในช่วงนั้น และจากการรายงานผ่านเวบไซต์เวยป๋อเขาโต้แย้งทางการจีนที่ตราหน้าผู้ประท้วงว่า "ผู้ก่อจลาจล" โดยบอกว่า คนส่วนใหญ่ร่วมชุมนุมอย่างสงบ ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นผู้ก่อจลาจล หลังจากนั้นเขาถูกทางการจีนเรียกตัวกลับแผ่นดินใหญ่ทันที ตามด้วยการถูกสอบปากคำจากหลายหน่วยงานแอคเคานต์ทั้งหลายของเขาในโซเชียลมีเดียของจีนถูกลบทิ้ง ต่อมาในเดือนต.ค.เขากลับมาเปิดบัญชีผู้ใช้ในยูทูบและทวิตเตอร์

ขณะที่การหายตัวไปของเขาครั้งนี้ ยิ่งทำให้สังคมอยากรู้จักนักข่าวพลเมืองคนนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งชาวเน็ตหลายคนได้ให้คำตอบว่า เขาเป็นฮีโร่ ผู้กล้าไปถึงอู่ฮั่นรายงานความจริง และบางคนบอกด้วยว่า จะไม่ยอมให้เฉิน ฉิวซื่อ ถูกปิดปากเหมือนกรณีหมอหลี่ นอกจากนี้อีกคน โพสว่า "ไม่มีซูเปอร์ฮีโรในโลกใบนี้ มีแต่คนธรรมดาที่ลุกขึ้นสู้"ข่าวใกล้เคียง ส่องเมืองก่อนเกิดโรคระบาด "อู่ฮั่น" มีอะไรมากกว่าไวรัสโคโรนา




Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว