เปิดใจนักศึกษาไทย หลังจีน ปิดเมืองอู่ฮั่น
วันนี้ (26 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังประเทศจีนได้ประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยปิดระบบการขนส่งสาธารณะ และการเดินทางระหว่างเมือง ซึ่งล่าสุด สำนักข่าวซินหัว รายงานว่าคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) ประกาศจำนวนผู้ป่วยโรคไวรัสโคโรนา 1,975 คน เป็นผู้ป่วยวิกฤต 324 คน และเสียชีวิต 56 คน (ข้อมูล 25 ม.ค.)
นอกจากนี้ ในภูมิภาคระดับมณฑล 30 แห่งของจีน ได้แก่ มองโกเลียใน หนิงเซี่ย เฮยหลงเจียง จี๋หลิน เหลียวหนิง ซานซี ส่านซี เหอหนาน กานซู่ ชิงไห่ ซินเจียง และไห่หนาน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับสูงสุดตามภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ
"การเดินทางกับอาหารเป็นเรื่องใหญ่ เพราะรัฐบาลมีการปิดระบบขนส่ง คนที่ไม่มีรถส่วนตัวในเมืองการเดินทางลำบาก แต่ทางมหาวิทยาลัยพานักศึกษาไปตุนอาหารสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่พบราคาแพงขึ้น"
ของกินเหลือแต่มาม่า ขนมปัง ไส้กรอก ของกินเหลือไม่เยอะมาก ของสดในซูเปอร์ไม่เหลือเลย เราเลยได้แค่ ขนมปัง มาม่า แล้วก็นมโคตรน่ากลัวอะ ถ้ารอดไปได้จะเล่าให้ลูกหลานฟัง #อู่ฮั่นฉันต้องรอด
ล่าสุด ได้โพสต์ว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วงและขออภัย ที่มีแหล่งข่าวจากหลายสำนักขอสัมภาษณ์แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะมีหลายประเด็นที่ไม่ได้รู้ลึก ซึ่งการให้สัมภาษณ์มันจะเป็นดาบสองคมและจะทำให้หลายคนวิตกกังวลไปไกล โดยระบุว่า คนไทยที่อยู่ที่อู่ฮั่น มีประมาณ 50-60 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ส่วนใหญ่พักอาศัยอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยจึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากคนไม่พลุกพล่านเพราะเป็นช่วงมหาวิทยาลัยปิดเทอม
"ตอนนี้เพื่อนนักศึกษาต่างชาติ เช่น อเมริกาญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เขาได้รับแจ้งว่ทางสถานทูตของเขาได้เตรียมตำเนินการเพื่อจะรับตัวกลับแล้ว เราก็รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยอยู่"
ถ้ายังอยู่ต่อ ไม่รู้ว่จะอดอาหารตาย หรือติดเชื้อตาย อยากกลับบ้านมากรอด้วยความหวัง
"เพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รักษาร่างกายให้อบอุ่นเสมอ และหากมีอาการเริ่มป่วย เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจติดขัด ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการโดยทันที"