เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง


เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง

ปลายปี 2559 ทันทีที่พระราชวังเคนซิงตันออกมายืนยันว่าเมแกนคบหาอยู่กับเจ้าชายแฮร์รี่ สปอตไลท์ทั้งโลกก็กระหน่ำเข้าใส่เธอแบบไม่ยั้ง และนั่นทำให้เราได้รู้ว่าเมแกนเกิดและเติบโตในลอสแอนเจลิส มีพ่อชื่อโธมัส ดับบลิว. มาร์เคิล เป็นผู้กำกับภาพที่เคยได้รับรางวัลเอ็มมี่ ส่วนแม่ ดอเรีย แร็กแลนด์ เรียนจบปริญญาโทด้านสังคมสงเคราะห์  มีอาชีพเป็นครูสอนโยคะและนักบำบัดจิตเวช

ตั้งแต่เด็กเมแกนเข้าศึกษาในโรงเรียนเอกชนมาตลอด เริ่มจากอายุ 5 ขวบที่โรงเรียนฮอลลีวู้ด ลิตเติ้ล เรด (Hollywood Little Red Schoolhouse) อายุ 6 ขวบ พ่อแม่แยกทางกัน เมแกนอยู่ในความดูแลของแม่ อายุ 12 ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอิมมาคูเลท ฮาร์ท (Immaculate Heart High School) จากนั้นไปศึกษาต่อที่โรงเรียนหญิงล้วนโรมันคาทอลิก (Roman Catholic High School) ในแอลเอ ก่อนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการละคร และด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น (Northwestern University) ในปี 2003

เพราะมีพ่อทำงานในแวดวงบันเทิง ทำให้เมแกนเริ่มงานในวงการได้ไม่ยาก เธอได้รับบทในซีรี่ส์มากมายหลายเรื่องและแสดงภาพยนตร์บ้างประปราย แต่ไม่เด่นดังเท่าไร จนกระทั่งได้รับบทนำเป็นทนายความสาวเซ็กซี่ในซีรี่ส์ดัง Suits จึงเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวาง




เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง

แต่นอกจากอาชีพนักแสดงแล้ว เมแกนยังจัดว่าเป็นผู้หญิงใจกุศล เธอมักช่วยเหลือสนับสนุนองค์กรการกุศลต่างๆ เป็นประจำ เคยเป็นที่ปรึกษาให้มูลนิธิ One Young World ขึ้นพูดในการประชุมประจำปีที่กรุงดับลิน ปี 2014 ในหัวข้อความเสมอภาคระหว่างหญิง - ชาย และแรงงานทาส เคยเป็น Global Ambassador ให้ World Vision Canada เดินทางไปประเทศรวันดาเพื่อรณรงค์เรื่องน้ำสะอาด เคยช่วยเหลือสนับสนุนงานของสำนักงานสหประชาชาติเพื่อความเท่าเทียมทางเพศและให้อำนาจสตรี(United Nations Entity for Gender Equality and the Empowerment of Women) และเคยเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับมูลนิธิศุภนิมิตร ประจำประเทศแคนาดา รณรงค์ช่วยเหลือเด็กให้ได้รับการศึกษา



เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง

ด้วยคุณสมบัติ สวย เก่ง มีการศึกษา ที่สาธยายมา มองผาดๆ ดูเหมือนเมแกนจะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นคู่ชีวิตของเจ้าชายแฮร์รี่ และเป็นหนึ่งสมาชิกของราชวงศ์ แต่เทพนิยาย 2018 มันคนละโลกกับเทพนิยายดิสนีย์ สีชมพูในเทพนิยายเรื่องนี้จึงถูกสาดด้วยสีดาร์คหม่นทึม เพราะทันทีที่มีการประกาศว่าเจ้าชายแฮร์รี่พึงพระทัยในตัวเมแกน สื่อออฟไลน์ ออนไลน์ก็เริ่มขุดคุ้ยเรื่องพลาดๆ ในชีวิตของเธอออกมาตีแผ่ แน่นอนว่ามิใช่ประเด็นที่เธอเป็นหญิงสามัญชน เพราะสะใภ้หลวงราชวงศ์อังกฤษยุคนี้ก็ล้วนเป็นคนธรรมดากันทั้งนั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ใคร่จะมีการต่อต้านเหมือนกับที่ผู้คนลุกขึ้นมาต่อต้านเมแกน


ทั้งนี้หลักใหญ่ใจความก็มาจาก เมแกน มาร์เคิล มีโทษสมบัติ 4 ไม่ ซึ่งตามขนบสมัยโบราณถือว่าเป็นข้อห้ามเอกอุ นั่นคือ
ไม่ 1 เมแกนอายุมากว่าเจ้าชายแฮร์รี่ 3 ปี (เมแกนอายุ 36 เจ้าชายแฮร์รี่ อายุ 33)

ไม่ 2 เมแกนเป็นแม่ม่าย ผ่านการหย่าร้างกับเทรเวอร์ อีเกิลสัน โปรดิวเซอร์โทรทัศน์และภาพยนตร์ชาวอเมริกันมาแล้ว หลังจากใช้ชีวิตคู่ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น (2011-2013)

ไม่ 3 เมแกนเป็นชาวต่างชาติ เธอเป็นอเมริกันชนที่เกิดในลอสแอนเจลิส

ไม่ 4 เมแกนไม่ใช่คนผิวขาวแท้ เธอเป็นพวกผิวสีลูกผสม พ่อมีเชื้อสายคอเคเชียน ดัตช์และไอริช ส่วนแม่เป็นแอฟริกันอเมริกัน



แต่ที่ร้ายยิ่งกว่าคือกรณีผู้ไม่ประสงค์ดีส่งจดหมายไปที่พระราชวังเซนต์เจมส์ จ่าหน้าซองถึงเจ้าชายและเมแกน ข่าวว่าเมื่อแรกที่คุณข้าหลวงเปิดออกก็ถึงกับผงะ เพราะในซองจดหมายบรรจุผงแป้งเอาไว้ ทำเอาโกลาหลกันยกใหญ่เพราะกลัวว่าจะเป็นเชื้อแอนแทรกซ์ ยังดีว่าตรวจสอบแล้วไม่ใช่ แต่ทั้งหมดนี้ก็สะท้อนถึงความเกลียดชังทางเชื้อชาติของกลุ่มที่ตั้งใจต่อต้าน โชคดีที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเป็นสุภาพบุรุษ พระองค์ทรง Don't care ในทุกๆ กระแส แถมยังทรงลุกขึ้นมาปกป้องพระคู่หมั้นอย่างน่าชื่นชม ทรงประนามกระแสต่อต้านที่แพร่ไปทั่วว่าเป็นทัศนะของพวกเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ ซึ่งพระองค์ไม่ทรงเชื่อว่าเป็นการกระทำของคนอังกฤษ

เจ้าชายแฮร์รี่ทรงใช้ทักษะทางการทูตที่น่าจะทำให้พวกต่อต้านจุกอยู่ในอกบ้าง ด้วยการบอกว่า... สังคมอังกฤษในปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา ที่สำคัญการแต่งงานของพระองค์ได้รับการยอมรับทั้งจากควีนเอลิซาเบธที่ 2 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพราะฉะนั้นการขุดคุ้ยของสื่อจึงมีผลเพียงทำให้คนอ่านเอามัน ไม่สามารถสั่นคลอนเจตจำนงค์ของราชวงศ์ได้




เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง

โธมัส มาร์เคิล จูเนียร์ พี่ชายต่างแม่ ใช้วิธีเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อไปทั่วทุกหัวระแหง แต่ที่หนักข้อคือลงทุนเขียนจดหมายหาเจ้าชายแฮร์รี่ เตือนให้ยกเลิกพิธี ไม่งั้นจะกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของราชวงศ์ เพราะเมแกนไม่ใช่ผู้หญิงที่คู่ควร เป็นคนร้ายกาจ เย่อหยิ่ง จองหอง เป็นดาราฮอลลีวู้ดเกรดต่ำ บลาๆๆ ตบท้ายด้วยการโพสต์ภาพด้านนอกพระราชวังวินด์เซอร์พร้อมขึ้นแคปชั่นว่า "เทพนิยายจอมปลอม" (fake fairy tale) บนพื้นที่สื่อออนไลน์ของตัวเอง

แต่ที่สุดพล็อตยุงไข่ก็โอละพ่อ โธมัสจูเนียร์เปลี่ยนท่าทีชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ หลังจากเดินทางจากโอเรกอนไปยังกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา เขาให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ เดลิมิร์เรอร์ ว่า "น้องสาวผมจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของราชวงศ์ เธอจะกลายเป็นเจ้าหญิงสมัยใหม่ ผมหวังว่าเมแกน และแฮร์รี่จะมีความสุขในอนาคต"



เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง

ขณะที่ ซาแมนธา แกนท์ มาร์เคิล พี่สาวต่างแม่ รายนี้เดินสายให้สัมภาษณ์ไม่ได้ เพราะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องนั่งบนรถเข็น แต่ความมุ่งร้ายหาได้โรยแรงเหมือนสภาพร่างกายไม่ ขาเดินไม่ได้ แต่มือยังขยับ เธอจึงเลือกเขียนทวิตว่าร้ายเมแกนต่างๆ นานา ว่าเป็นคนโกหกหลอกลวงบ้างละ อุปมาอุปไมยว่าช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิดบ้างละ เมแกนอกตัญญู ไม่เชิญพ่อไปร่วมงานบ้างละ บลาๆๆ อีกครั้ง

ถามว่าเพราะอะไร พี่ชายพี่สาวต่างแม่ถึงออกมากระทำเยี่ยงนี้

คำตอบง่ายๆ สั้นๆ อิจฉาแอนด์โกรธ เพราะเมแกนไม่เชิญให้ไปร่วมพิธีเสกสมรส

ถามอีกว่าทำไมเมแกนไม่เชิญ

ตอบ เพราะพี่น้องบ้านนี้ไม่ได้สนิทกันเลย ย้อนกลับไปอ่านข้อมูลตอนต้น พ่อแม่เมแกนแยกทางกันตั้งแต่เธออายุ 6 ขวบ หลังจากนั้นเธอก็อยู่กับแม่ตลอด ความมักคุ้นกับพี่น้อง วงเล็บว่าต่างแม่จึงเลือนหายไปตามการอยู่อาศัย แต่ลึกๆ กว่านั้น สัมพันธภาพพี่น้องคงมีอะไรในกอไผ่พอสมควร ไม่งั้นเมแกนคงไม่ตัดสินใจไม่เชิญแต่แรก




เส้นทางชีวิตก่อน-หลัง สละฐานันดร ดัชเชสเมแกน ผู้ฝ่าพายุลูกใหญ่ ดราม่าสะใภ้หลวง

แต่ความขมขื่นจากกระแสทำลายล้างของพี่ต่างแม่ก็คงไม่ทำให้เมแกนทุกข์ตรมได้เท่ากับสถานการณ์ล่าสุด กับข่าวที่ว่า โธมัส มาร์เคิล พ่อแท้ๆ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่เม็กซิโก เจตนาให้ปาปารัสซีมาถ่ายภาพตัวเองตอนที่อยู่ในห้องเสื้อเตรียมวัดตัวจะตัดชุด แต่ตามองไปที่จอคอมพิวเตอร์ที่มีภาพเจ้าชายแฮร์รี่กับลูกสาว ว่ากันว่าภาพนี้ถูกขายออกไปในราคา 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดคำขอของสำนักพระราชวังอังกฤษที่บอกว่า ใกล้พิธีเสกสมรสแล้ว ขอให้ครอบครัวเจ้าสาวเก็บเนื้อเก็บตัวในช่วงก่อนพิธีด้วย

และราวกับจะสอดคล้องกับคำสุภาษิตที่ว่า "ข่าวร้ายไม่เคยมาในคราวเดียว" ซาแมนธา พี่สาวจอมแสบขอเกาะกระแสข่าวฉาวนี้ด้วยการออกมาบอกว่า "ชั้นนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำภาพชุดนี้" ก่อนจะตามด้วยข่าวโธมัสผู่พ่อเกิดป่วยกะทันหัน ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล นั่นทำให้พิธีเสกสมรส วันที่ 19 พ.ค. เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ต้องทรงเข้ามาทำหน้าพาเมแกนเดินเข้าโบสถ์แทนพ่อเจ้าสาว

ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกมา หัวใจของเมแกนจะเป็นเช่นไร ไม่มีใครทราบ เจ้าชายแฮร์รี่จะทรงปลอบใจพระชายาอย่างไร ไม่มีใครรู้ แต่ตราบใดที่สองมือยังจับจูงกัน อุปสรรค หรือดราม่าใหญ่หลวงแค่ไหนก็คงไม่ครนามือเจ้าชายแฮร์รี่ สุภาพบุรุษคนจริงไปได้หรอก

ล่าสุดอหลังจากที่มีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่องการสละฐานันดร ในวันนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าทั้งสองจะไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในกิจการของราชวงศ์ อีกทั้งยังต้องคืนเงินภาษีที่เคยนำมาซ่อมแซมพระตำหนักฟร็อกมอร์ คอตเทจ แม้ชีวิตของครอบครัวซัสเซกซ์นับจากนี้ก็อาจจะใช้ชีวิตอยู่ที่แคนาดามากขึ้น แต่พระตำหนักนี้จะยังคงเป็นที่ประทับของครอบครัวซัสเซกซ์ในสหราชอาณาจักรอยู่ตามเดิม



เครดิตแหล่งข้อมูล : praew





เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ดูดวง เลขบัตรประชาชน คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์