นิตยสารไทม์ยก “เกรตา ทุนเบิร์ก” บุคคลแห่งปี 2019
นิตยสารไทม์ระบุว่า ทุนเบิร์ก สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติโลกได้สำเร็จ เปลี่ยนความกังวลที่ทำให้คนตื่นกลางดึก กลายเป็นความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนทั่วโลก "เราไม่สามารถที่จะอยู่อย่างนี้ต่อไป เหมือนว่าไม่มีวันพรุ่งนี้ เพราะว่าไม่มีวันพรุ่งนี้"
ทุนเบิร์ก ได้รับเลือกขึ้นมาระหว่างตัวเลือกอย่างผู้ประท้วงในฮ่องกง, ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
เรื่องราวของ เกรตา ทุนเบิร์ก เริ่มขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เมื่อเธอนั่งประท้วงหน้าอาคารรัฐสภาของสวีเดน หยุดเรียนเพื่อประท้วงรัฐบาล ถือป้ายทำเองที่เขียนว่า "หยุดเรียนประท้วงภาวะโลกร้อน" ไม่กี่เดือนต่อมา การประท้วงอย่างโดดเดี่ยวเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนในกว่าร้อยประเทศทั่วโลกออกมาเดินขบวนเรียกร้องกับกิจกรรม "วันศุกร์เพื่ออนาคต"
ความสนใจของทุนเบิร์กเริ่มขึ้นเมื่อครูที่โรงเรียนให้เด็กๆ ดูวีดีโอสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกเพราะภาวะโลกร้อน หมีขั้วโลกที่อดอยาก สภาพอากาศรุนแรง และน้ำท่วมใหญ่ หลังจากนั้น ทุนเบิร์กกลับตกอยู่ในความกังวล จนกลายเป็นภาวะซึมเศร้าเมื่อเธออายุเพียง 11 ปี เธอแทบไม่พูดจากับใคร ไม่ค่อยกินอาหาร เกือบถูกหามส่งโรงพยาบาล ทุนเบิร์กเล่าว่าเธอรู้สึกสับสน ไม่เข้าใจว่าปัญหามันมีอยู่ เป็นความคุกคามใหญ่หลวง แต่เรากลับไม่ให้ความสำคัญ
นิตยสารไทม์ระบุว่า การที่ทุนเบิร์กมีอาการแอสเพอร์เกอร์ คืออาการที่เกิดจากความผิดปกติทางการทำงานของระบบประสาท ที่จัดอยู่ในกลุ่มออทิสติค ทำให้ปฏิกิริยาของเธอที่มีต่อเรื่องโลกร้อนแตกต่างจากเด็กทั่วไป เพราะเธอไม่ได้ประมวลข้อมูลเหมือนคนอื่น เธอกล่าวกับนิตยาสารไทม์ว่า เธอเห็นโลกเป็นขาวกับดำ และเธอไม่ชอบการประณีประนอม ถ้าเธอเหมือนคนอื่น เธอก็จะมองไม่เห็นวิกฤตินี้