หญิงสูบบุหรี่-ป่วยมะเร็ง ได้ “ลิ้น” ใหม่ หมอปลูกถ่ายจาก “แขน” คนไข้

วันที่ 9 ธ.ค. เมโทร นำเสนอชีวิตของ สเตฟานี วิกเกิลซ์เวิร์ธ อายุ 36 ปี แม่ลูกสอง เมืองเอลส์บรี มณฑลบักกิงแฮมเชอร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ผู้เคยสูบบุหรี่จนลิ้นเป็นแผลซ้ำๆ แต่ปล่อยเนิ่นนาน ก่อนจะทราบว่าเป็นมะเร็ง

 

ทีมแพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดผ่านลำคอ และเอาลิ้นส่วนที่เป็นมะเร็งครึ่งหนึ่งออกมา จากนั้น ปลูกถ่ายลิ้นใหม่จากแขนข้างซ้ายของเธอ และนำลิ้นมาแต่หลังการผ่าตัด น้ำเสียงของเธอจะแหบแห้งอย่างถาวร และต้องกินอาหารผ่านสายยาง แต่สามารถดื่มน้ำเองได้

นางสเตฟานีกล่าวขณะฟื้นฟูจากการผ่าตัดว่า แขนที่ถูกเอาผิวหนังออกไปเจ็บปวดมากกว่าปากจนไม่น่าเชื่อ

"เพื่อนและครอบครัวรู้ว่า ฉันมองโลกในแง่ดี เมื่อคุณเป็นมะเร็ง เหมือนกำลังถูกบังคับเข้าสู่ชมรมที่คุณไม่อยากเข้าเลย ฉันอยากได้เสียงตัวเองกลับคืนมา แต่ทำไม่ได้แล้ว จึงจำต้องยอมรับมัน"

ย้อนไปเมื่อปี 2556 นางสเตฟานีมีอายุ 30 ปี เริ่มรู้สึกลิ้นเหมือนหนามตำ แสบเล็กน้อย และชา พร้อมๆ ปวดไมเกรน จึงเริ่มค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 ก่อนจะทราบว่ามีเซลล์มะเร็ง สความอส มะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่ปกติแล้วจะมีผลต่อผู้ชายที่มีอายุเกิน 45 ปี

นางสเตฟานีกล่าวว่า ตอนนั้นรู้สึกแย่จริงๆ เนื่องจากทีมแพทย์ยืนยืนกับ แกรี่ สามีวัย 40 ปี พร้อมลูกๆ 2 คน ได้แก่ คีแรน วัย 14 ปี และ เดย์ซี วัย 8 ขวบ ซึ่งเข้ามาฟังผลด้วย

"เมื่อหมอบอกฉันเป็นมะเร็งปาก ทุกอย่างที่ฉันได้ยินกลบเสียงทุกเสียง ฉันเป็นนักสูบจึงรู้สึกเหมือนสมควรแล้ว แต่แค่ต้องการอยู่กับๆ ลูกเพื่อจดจำฉัน" นางสเตฟานีกล่าว

ทีมแพทย์ตัดสินใจแนวทางที่ดีที่สุดคือเอาลิ้นส่วนที่เป็นมะเร็งออกเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2556 ส่วนนายแกรีทำงานในกองทัพ แต่ได้รับอนุญาตด้วยความเห็นอกเห็นใจ ออกมาดูแลภรรยาที่บ้านและช่วยขับรถพาภรรยาไปบำบัด

"เราบอกคีแรนว่า แม่เป็นมะเร็งแต่ไม่ตาย เพียงต้องไปบำบัด ส่วนเดย์ซีโชคดีที่ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจอะไรนอกจาก "แม่ร้องเจ็บ" เท่านั้น"

นับตั้งแต่ตรวจพบมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในลำคอ นางสเตฟานีเข้ารับการรักษาด้วยรังสี 35 ครั้ง ด้วยความรู้สึกเหมือนระเบิด เนื่องจาก 2-3 ครั้งแรกยังไหว แต่หลังจากนั้นรู้สึกเหนื่อย

 

"เพื่อนๆ และแกรี่ผลัดกันขับรถพาไปโรงพยาบาล ขณะที่ฉันล้มพับด้านหลังรถและห่อตัวด้วยผ้านวม"

แม้ว่าการเดินทางยากลำบากและขั้นตอนการรักษาเจ็บปวด แต่นางสเตฟานียังเข้ารับการบำบัดต่อไปและมองในแง่ดี

"ฉันคิดถึงทุกอาหารโปรดที่เราเคยกินกับครอบครัว สเต็กและแซนด์วิช ฉันมองโลกในแง่ดี ฉะนั้น แม้ว่าการรักษาจะยากเย็น แต่ยังยิ้มได้และขอบคุณ" นางสเตฟานีกล่าว