ออง ซาน ซู จี ขึ้นศาลโลก สู้คดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ “โรฮิงยา”
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ภาพพจน์ของนางซูจีตกต่ำลง จากเดิมในฐานะนักต่อสู้เรียกร้องระบอบประชาธิปไตยในพม่า และบุคคลซึ่งเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนรับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ชาวโรฮิงยา ตอกย้ำด้วยพฤติกรรมเพิกเฉยของนางซูจีต่อเหตุที่เกิดขึ้นเสมอมา ขณะที่คณะสืบสวนของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่แฝงตัวลงพื้นที่ในรัฐยะไข่ และสัมภาษณ์ชาวโรฮิงยาผู้รอดชีวิต เปิดเผยรายงานเมื่อปีที่ผ่านมาว่า ภารกิจของกองทัพพม่าเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
การดำเนินคดีต่อทางการพม่าเป็นความพยายามของนานาชาติ นำโดยประเทศแกมเบีย ชาติในภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐบาลพม่า ในข้อหาละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 2491 ส่งผลให้ชาวโรฮิงยากว่า 740,000 คน อพยพหนีตายข้ามไปยังฝั่งประเทศบังกลาเทศ
ทั้งนี้ การเปิดไต่สวนเพื่อรับฟังข้อชี้แจงจากทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยของไอซีเจจะใช้เวลา 3 วัน โดยผู้แทนของแกมเบีย ในฐานะตัวแทนชาติ 57 ประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี จะเป็นฝ่ายเปิดก่อนเพื่อขอให้ศาลใช้อำนาจคุ้มครองชั่วคราวหยุดยั้งภารกิจทางทหารของกองทัพพม่าในรัฐยะไข่ เพื่อระงับสถานการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ส่วนนางซูจี ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะคัดค้านด้วยการชี้ว่าศาลไม่มีขอบเขตอำนาจดังกล่าว ขณะที่การตัดสินคดีถึงที่สุดคาดว่าอาจใช้เวลาหลายปี