เจ้าชายแฮร์รีเปิดศึกสื่อ เทียบรังแกเมแกน เหมือนที่เคยทำกับเจ้าหญิงไดอานา
"ความกลัวอันลึกสุดใจของข้าพเจ้าคือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีก สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับบุคคลที่ข้าพเจ้ารักคือการทำให้เป็นสินค้าขายได้ขายดี นำไปสู่การปฏิบัติหรือมองบุคคลนั้นแบบไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ข้าพเจ้าสูญเสียพระมารดาไปแล้ว และตอนนี้กำลังเห็นชายาของข้าพเจ้าตกเป็นเหยื่อของพลังทรงอำนาจแบบเดียวกันนั้นอีก" เจ้าชายแฮร์รีตรัส
เจ้าชายแฮร์รีรับสั่งด้วยว่า จะทรงไม่ทนเฝ้ามองพระชายาทุกข์ใจอย่างเงียบๆ อีกต่อไป
แถลงการณ์มีขึ้นหลังจากดัชเชสเมแกนทรงให้ทนายยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์ เมล์ ออน ซันเดย์ หรือ เดลีเมล์ ฉบับวันอาทิตย์ กรณีที่ตีพิมพ์จดหมายส่วนตัวของเมแกนเขียนถึงพ่อชาวอเมริกันที่มีปัญหากัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ อันเป็นการกระทำที่สื่อถูกกล่าวหาว่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัว
ความเคลื่อนไหวฟ้องร้องสื่อดังกล่าว บดบังการปิดทริปเสด็จเยือนหลายประเทศในทวีปแอฟริกา 10 วันของเจ้าชายแฮร์รี พระชายา รวมถึงพระโอรส อาร์ชี ที่ทรงเดินทางเยือนต่างแดงและเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก
เจ้าชายแฮร์รี รวมถึงเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา ทรงเติบโตมาด้วยความรู้สึกไม่ดีนักต่อสื่อมวลชนแท็บลอยด์ของอังกฤษ เนื่องจากการตามติดทำข่าวและถ่ายภาพเจ้าหญิงไดอานาอย่างไม่ลดละ อีกทั้งยังขุดคุ้ยเรื่องราวการแยกทางและหย่าร้างของเจ้าหญิงกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อปี 2540
เจ้าชายแฮร์รี ทรงเคยให้สัมภาษณ์ตำหนิสื่อมวลชนที่ปฏิบัติไม่ดีนักต่อพระชายาของพระองค์ ในเชิงเหยียดสีผิว ตั้งแต่ก่อนพิธีหมั้นปี 2559 กระทั่งต่อมาสื่อนำเสนอข่าวของเมแกนในทางบวกจนถึงพิธีเสกสมรสในปี 2561
อย่างไรก็ตาม จากการที่พ่อของเมแกนไม่ได้มาร่วมพิธีเสกสมรส ทำให้เริ่มมีข่าวพิพาทและข่าวด้านลบเกี่ยวกับดัชเชสมากขึ้น กระทั่งไม่กี่เดือนมานี้ ทั้งเมแกนและเจ้าชายแฮร์รีถูกสื่อวิพากษ์วิจารณ์ที่ทรงใช้เงินภาษีของประเทศจำนวนมากไปตกแต่งพระตำหนักใหม่ อีกทั้งยังเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนพระองค์ที่ต้องสิ้นเปลืองเงิน
ด้าน เดอะ เมล์ ออน ซันเดย์ คู่กรณีที่ถูกฟ้อง แถลงยืนยันจะต่อสู้คดี เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมยืนกรานว่า จดหมายของเมแกนที่สื่อตีพิมพ์นั้น ไม่ได้ตัดต่อตกแต่งใดๆ ให้เสียความหมาย