โดนแล้วกระสุนจริง เข้าหน้าอก! ฮ่องกงประท้วงแย่งซีนวันชาติจีน

เอเอฟพี และ เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานวันที่ 1 ต.ค. การปะทะดุเดือดระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในฮ่องกงแย่งพื้นที่ข่าวงานเฉลิมฉลอง 70 ปีวันชาติจีนตามคาด เมื่อตำรวจยิงกระสุนจริงใส่ผู้ประท้วงเป็นครั้งแรก นับจากชาวฮ่องกงฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยชุมนุมต่อต้านการแทรกแซงอิทธิพลจากจีนมา 17 สัปดาห์ กระสุนทะลุเข้าหน้าอกผู้ประท้วงรายดังกล่าวและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยยิงกระสุนจริงมาก่อน แต่เป็นการยิงขึ้นฟ้า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ยิงถูกผู้ประท้วง ขณะที่ผู้ชุมนุมยกระดับการประท้วงและเคลื่อนไหวให้วันที่ 1 ต.ค. ตรงกับวันชาติจีน เป็นวันไว้ทุกข์

ผู้เข้าร่วมหลายพันคนเดินขบวนผ่านถนนจนเกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจในหลายเขตของฮ่องกง เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งไม่ให้ประท้วง ที่เขตหว่องไท่ซิน ตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตากลุ่มผู้ประท้วงที่ขวางถนน ก่อนปะทะกันตามจุดต่างๆ รวมถึงที่เขตซวนหวันที่ตำรวจใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ประท้วงที่เข้าไปใกล้ขณะจะใช้แท่งเหล็กขนาดเล็กตีตำรวจ

สำหรับงานฉลองครบรอบ 70 ปีก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุด เป็นประธาน การจัดสวนสนามครั้งใหญ่ที่สุดของจีน ประกอบด้วยนายทหาร 15,000 นาย พร้อมด้วยรถถัง แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ 580 ชิ้น เครื่องบิน 160 ลำ

รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ตงเฟิง 41 หรือ DF-41 พิสัยระยะไกล 15,000 ก.ม. ไปถึงแผ่นดินสหรัฐ อวดโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีโดรนลาดตระเวนความเร็วสูง เหนือเสียง และบินได้ในระดับสูง ขีปนาวุธรุ่นใหม่

โดนแล้วกระสุนจริง เข้าหน้าอก! ฮ่องกงประท้วงแย่งซีนวันชาติจีน

นายสีสวมชุดแบบเดียวกับเหมา เจ๋อตุง บิดาก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ขึ้นกล่าวปลุกความฝันของจีน หรือ จงกว๋อเมิ่ง บนแท่นพิธีของจัตุรัสเทียนอันเหมิน สถานที่ประธานเหมาประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ค.ศ. 1949 พร้อมแสดงวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ที่จะฟื้นฟูประเทศเพื่อให้เข้าใจถึงความรุ่งโรจน์ในอดีต

“ไม่มีพลังใดที่สามารถสั่นสะเทือนรากฐานของชาติที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ ไม่มีพลังใดที่สามารถหยุดประชาชนจีนและชาติจีนที่ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้”

นายสียังกล่าวใจความตอนหนึ่งถึงฮ่องกงด้วยว่า “เราต้องยึดมั่นหลักการรวมชาติอย่างสันติ และหนึ่งประเทศ สองระบบ ดำรงความมั่งคั่งและความมั่นคงในฮ่องกงและมาเก๊า ส่งเสริมสายสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ รวมลูกหลานชาติจีนเป็นหนึ่งเดียว เพื่อการรวมชาติอย่างสมบูรณ์ของมาตุภูมิ”