อินโดนีเซีย ออกกฎหมายใหม่ มี Sex โดยไม่ได้แต่งงานติดคุก นักท่องเที่ยวก็ไม่เว้น
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก อินโดนีเซีย ออกกฎหมายใหม่ มี Sex โดยไม่ได้แต่งงานติดคุก นักท่องเที่ยวก็ไม่เว้น
เรียกได้ว่าในช่วงหลัง ๆ กลุ่มประเทศที่ออกกฎหมาย "ช็อกโลก" สุด ๆ แบบเป็นน้องใหม่มาแรงก็คงหนีไม่พ้น SEA ของเรา ช่วงก่อนหน้านี้ที่บรูไนออกกฎหมาย "ประหารเกย์" ก็ช็อกโลกไปทีนึงแล้ว มาล่าสุดนี้อินโดนีเซียก็มาแรงไม่แพ้กันโดยออกกฎหมายควบคุมการร่วมเพศ สารพัด เช่น ถ้าชายหญิงอยู่กันฉันผัวเมียโดยไม่ได้แต่งงาน มีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน โทษปรับสูงสุดราว 21,000 บาท นอกจากนี้ การร่วมประเวณีที่ไม่ได้ทำกับคู่สมรสของตนก็มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และแน่นอน นี่รวมถึงการร่วมเพศกับเพศเดียวกันด้วย เพราะอินโดนีเซียไม่ยอมรับการแต่งงานของเพศเดียว
.
ซึ่งกฎหมายนี้เรียกได้ว่า "ช็อกโลก" เพราะอินโดนีเซียเป็นเมืองท่องเที่ยว และกฎหมายนั้นจะบังคับใช้ในทุกพื้นที่ของอินโดนีเซีย รวมทั้งเมืองที่เคร่งน้อย และนักท่องเที่ยวชอบไปอย่างบาหลีด้วย ดังนั้นสื่อทั่วโลกก็เลยลงข่าวเพื่อเตือนนักท่องเที่ยวจากประเทศตัวเองกันยกใหญ่
.
ที่ตลกคือ พอนักข่าวเห็นประเด็นนี้แล้วไปถามนักการเมืองที่ผลักดันกฎหมายนี้ ว่าแบบนี้นักท่องเที่ยวไม่หายหมดเหรอ ห้ามมีเซ็กซ์กันเนี่ย เขากลับตอบว่า "ไม่เป็นไรหรอก ก็อย่าให้คนอื่นรู้สิ"
.
อันนี้จริง กฎหมายนี้มีร่างมาสักพักแล้ว และมันไม่ใช่กฎหมายตัวเดียว แต่อินโดนีเซียกำลังยกร่างกฎหมายอาญาทั้งฉบับเลย และอีกตัวที่มีปัญหามากที่น่าจะผ่านไปพร้อม ๆ กันคือกฎหมายหมิ่นประธานาธิบดี ซึ่งเอาแบบมาจากกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในยุคอาณานิคม (ก็คงไม่ต้องอธิบายมากว่ากฎหมายเหล่านี้เป็นกฎหมายประหลาดที่ประเทศอื่น ๆ ในปัจจุบันไม่มีกัน)
.
สภาเพิ่งรับรองร่างกฎหมายอาญาฉบับนี้ทั้งฉบับไปในวันพุธที่ 19 สิงหาคม 2559 และทุกฝ่ายก็คาดว่ามันจะผ่านฉลุยเพราะตอนนี้การเมืองอินโดนีเซียมีเสียงไปทางเดียวกันหมด
.
ทั้งนี้สิ่งที่ช็อกโลกอีกประการของแนวทางการเปลี่ยนกฎหมายนี้ก็เพราะ มันมีกลิ่นอายของ "รัฐศาสนา" แบบกลุ่มประเทศตะวันออกกลางแรงมาก ๆ และอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมเยอะที่สุดในโลก โดยประชากรกว่า 270 ล้านคน มีเกือบ 90% ที่เป็นมุสลิม
.
อย่างไรก็ดี อันที่จริงอินโดนีเซียก็เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาก ๆ มีกลุ่มชาติพันธุ์มหาศาล เรียกได้ว่าแต่ละเกาะแต่ละโซน ก็มีกลุ่มคนที่อยู่ต่างกัน ถึงนับถือศาสนาเดียวกัน แต่ก็มีความเคร่งทางศาสนาที่ต่างกัน และบางพื้นที่คนส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาต่างไปด้วย เช่น ในบาหลี คนเกือบ 90% เป็นคนฮินดู
.
ดังนั้นในสายตาโลกก็คือ การเปลี่ยนกฎหมายแบบที่เอาหลักศาสนามาจับและไม่เป็นกลางแบบนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะในสังคมที่มีหลากหลายวัฒนธรรม? แต่ก็นั่นเอง สุดท้ายนี่ก็เป็น "เรื่องภายใน" ของประเทศ เพราะอย่างน้อย ๆ รัฐบาลก็มาจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม
.
.
ซึ่งกฎหมายนี้เรียกได้ว่า "ช็อกโลก" เพราะอินโดนีเซียเป็นเมืองท่องเที่ยว และกฎหมายนั้นจะบังคับใช้ในทุกพื้นที่ของอินโดนีเซีย รวมทั้งเมืองที่เคร่งน้อย และนักท่องเที่ยวชอบไปอย่างบาหลีด้วย ดังนั้นสื่อทั่วโลกก็เลยลงข่าวเพื่อเตือนนักท่องเที่ยวจากประเทศตัวเองกันยกใหญ่
.
ที่ตลกคือ พอนักข่าวเห็นประเด็นนี้แล้วไปถามนักการเมืองที่ผลักดันกฎหมายนี้ ว่าแบบนี้นักท่องเที่ยวไม่หายหมดเหรอ ห้ามมีเซ็กซ์กันเนี่ย เขากลับตอบว่า "ไม่เป็นไรหรอก ก็อย่าให้คนอื่นรู้สิ"
.
อันนี้จริง กฎหมายนี้มีร่างมาสักพักแล้ว และมันไม่ใช่กฎหมายตัวเดียว แต่อินโดนีเซียกำลังยกร่างกฎหมายอาญาทั้งฉบับเลย และอีกตัวที่มีปัญหามากที่น่าจะผ่านไปพร้อม ๆ กันคือกฎหมายหมิ่นประธานาธิบดี ซึ่งเอาแบบมาจากกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในยุคอาณานิคม (ก็คงไม่ต้องอธิบายมากว่ากฎหมายเหล่านี้เป็นกฎหมายประหลาดที่ประเทศอื่น ๆ ในปัจจุบันไม่มีกัน)
.
สภาเพิ่งรับรองร่างกฎหมายอาญาฉบับนี้ทั้งฉบับไปในวันพุธที่ 19 สิงหาคม 2559 และทุกฝ่ายก็คาดว่ามันจะผ่านฉลุยเพราะตอนนี้การเมืองอินโดนีเซียมีเสียงไปทางเดียวกันหมด
.
ทั้งนี้สิ่งที่ช็อกโลกอีกประการของแนวทางการเปลี่ยนกฎหมายนี้ก็เพราะ มันมีกลิ่นอายของ "รัฐศาสนา" แบบกลุ่มประเทศตะวันออกกลางแรงมาก ๆ และอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมเยอะที่สุดในโลก โดยประชากรกว่า 270 ล้านคน มีเกือบ 90% ที่เป็นมุสลิม
.
อย่างไรก็ดี อันที่จริงอินโดนีเซียก็เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาก ๆ มีกลุ่มชาติพันธุ์มหาศาล เรียกได้ว่าแต่ละเกาะแต่ละโซน ก็มีกลุ่มคนที่อยู่ต่างกัน ถึงนับถือศาสนาเดียวกัน แต่ก็มีความเคร่งทางศาสนาที่ต่างกัน และบางพื้นที่คนส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาต่างไปด้วย เช่น ในบาหลี คนเกือบ 90% เป็นคนฮินดู
.
ดังนั้นในสายตาโลกก็คือ การเปลี่ยนกฎหมายแบบที่เอาหลักศาสนามาจับและไม่เป็นกลางแบบนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะในสังคมที่มีหลากหลายวัฒนธรรม? แต่ก็นั่นเอง สุดท้ายนี่ก็เป็น "เรื่องภายใน" ของประเทศ เพราะอย่างน้อย ๆ รัฐบาลก็มาจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม
.
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น