จีนประกาศ 3กฎเหล็ก ม็อบฮ่องกง ล้ำเส้นจุดจบจะตามมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ว่าบทบรรณาธิการโดย สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ ยังคงเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกง และมีสาระสำคัญคือการประณามสถานการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งย้ำการสนับสนุนของแผ่นดินใหญ่ที่มีต่อคณะผู้บริหารฮ่องกงของ นางแคร์รี แลม และการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจฮ่องกงที่เป็นไปด้วยความ "มุ่งมั่นและเด็ดขาด"

อย่างไรก็ตาม บทความของซินหัวชิ้นนี้แตกต่างจากหลายชิ้นที่ผ่านมา คือมีการกำหนด "กฎเล็ก 3 ข้อสำคัญ" พร้อมคำเตือนว่าหากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง "ก้าวล้ำ" ข้อบังคับทั้ง 3 ข้อดังกล่าวเมื่อใด "จะต้องพบกับจุดจบ" ที่ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่าคืออะไร

ส่วนเส้นตายทั้ง 3 ข้อได้แก่ บุคคลใดก็ตามไม่ควรสร้างความเป็นภัยหรือสั่นคลอนอธิปไตยและความมั่นคงของแผ่นดินใหญ่ บุคคลใดก็ตามไม่ควรท้าทายอำนาจของรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง และเบสิกลอว์ซึ่งถือเป็นกฎหมายพื้นฐานของการบริหารฮ่องกง และบุคคลใดก็ตามไม่ควรใช้ฮ่องกงเป็นฐานปฏิบัติการแทรกซึมเพื่อทำลายเสถียรภาพของแผ่นดินใหญ่

จีนประกาศ 3กฎเหล็ก ม็อบฮ่องกง ล้ำเส้นจุดจบจะตามมา

ขณะเดียวกัน บทบรรณาธิการของซินหัวยังอ้างถึงการที่หน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของฮ่องกงจับกุมผู้ก่อความไม่สงบเกือบ 900 คนแล้ว นับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งบทความระบุชื่อโดยตรง 2 คน คือ นายโจชัว หว่อง และนายแอนดรูว์ ชาน หน้าหน้าพรรคแห่งชาติฮ่องกง ( เอชเคเอ็นพี ) ที่มีนโยบายชัดเจนว่า "ต้องการเอกราช" ทั้งสองคนถูกจับกุมเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว แม้ได้รับการประกันตัว แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอีกหลายข้อ ทั้งนี้ บทความของซินหัวปิดท้ายว่าฝ่ายต่อต้านและบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจุดชนวน "ปฏิวัติสี" ( Colour Revolution ) ไม่ควรประเมินศักยภาพและท่าทีของรัฐบาลปักกิ่งในตอนนี้ "ต่ำเกินไป"

อนึ่ง กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากปิดเส้นทางสัญจรเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงนานหลายชั่วโมงเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนล่าถอยเมื่อตำรวจปราบจลาจลจำนวนมากยกกำลังเข้ามา และการท่าอากาศยานประกาศเตือนเป็นระยะว่า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย เนื่องจากสนามบินถือเป็นพื้นที่คุ้ทครองของศาล แต่สถานการณ์ยังคงอยู่ในระดับที่ตึงเครียด เมื่อมีการนัดผละงานประท้วงและไม่เข้าเรียนในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งคาเธ่ย์ แปซิฟิก สายการบินหลักของฮ่องกง เตือนว่าพนักงานคนใดก็ตามที่เข้าร่วม เสี่ยงต่อการถูกไล่ออก