ภาพสุดสะเทือนใจ!! ลูกชายยืนร้องไห้อยู่ข้างศพพ่อ ดึงคนแห่บริจาคช่วย 1.4 ล้าน

เมื่อ 18 ก.ย. บีบีซี รายงานเหตุการณ์สะเทือนใจของครอบครัวคนยากจนในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย เมื่อหัวหน้าครอบครัววัย 27 ปีที่ทำงานรับจ้างลอกท่อระบายน้ำ ตกลงไปตายในท่อ ขณะมีภาพข่าวสะเทือนอารมณ์ที่ลูกชายของผู้ตายยืนร้องสะอื้นไห้อยู่ข้างศพพ่อ เผยแพร่ออกไปในโซเชียลมีเดีย ภายในวันเดียวมีผู้บริจาคเงินช่วยครอบครัวนี้มากกว่า 43,000 ดอลลาร์ หรือราว 1,419,000 บาท

นายศิว ซันนี นักข่าวหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทมส์ โพสต์ภาพดังกล่าวในทวิตเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ก.ย. ให้สัมภาษณ์บีบีซีว่า สะเทือนใจที่เห็นเด็กชายอายุ 11 ปี ร่ำไห้ที่สูญเสียพ่อ พร้อมเขียนบรรยายว่าครอบครัวนี้ยากจนมาก แม้กระทั่งเงินค่าเผาศพก็ไม่มี

ตอนนั้นเด็กชายเดินตรงไปยังร่างของพ่อที่วางอยู่ในบริเวณที่เผาศพ เด็กเปิดผ้าคลุมใบหน้าศพแล้วเอามือทั้งสองจับที่แก้มของพ่อ พูดว่า "พ่อครับ" จากนั้นก็สะอื้นไห้

"ผมเป็นนักข่าวสายอาชญากรรม เห็นโศกนาฏกรรมมาก็ยอะ แต่นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน" นายซันนีกล่าว และว่าตนถ่ายรูปดังกล่าวนี้ ไม่กี่นาทีก่อนที่ร่างผู้ตาย ชื่อ อนิลจะเข้าสู่เตาเผา

นักข่าวฮินดูสถานไทมส์ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่โพสต์รูปนี้ในโซเชียลมีเดีย เพราะต้องการให้การตายของคนงานล้างท่อระบายน้ำได้รับความสนใจ และภาพๆ นี้ก็บอกเล่าสถานการณ์เลวร้ายของครอบครัวนี้ ซึ่งไม่มีแม้กระทั่งเงินเผาศพ กระทั่งมีเพื่อนบ้านช่วยกันนำเงินมาให้

นายอนิล ผู้ตาย เป็นคนงานล้างท่อระบายน้ำในกรุงนิวเดลี เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ 14 ก.ย. เพราะเชือกที่ใช้โรยตัวลงไปเกิดขาด และนายอนิลไม่มีอุปกรณ์ป้องกันภัยอื่นๆ

ชะตากรรมของคนงานลอกท่อระบายน้ำในอินเดียนั้นเสียชีวิตนับร้อยในทุกๆ ปี ทางสหภาพกล่าวว่าเพราะไม่มีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่เเหมาะสม

สำหรับโศกนาฏรรมของครอบครัวนายอนิลเกิดขึ้นต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ ลูกชายอายุ 4 เดือนของครอบครัวนี้เพิ่งเป็นปอดบวมตาย และอนิลที่มีชีวิตอยู่ในตอนนั้นก็ไม่มีเงินจะซื้อยาให้ลูก ขณะที่นายอนิลมีลูกสาวอีก 2 คน อายุ 7 และ 3 ขวบ

ภาพดังกล่าวของนายซันนีได้รับความสนใจจากมูลนิธิอูเดย์ องค์กรเอกชนที่เข้ามาช่วยระดมทุน ด้วยเห็นว่า ถึงแม้จะทำให้นายอนิลฟื้นคืนมาไม่ได้ แต่ก็อยากจะช่วยเหลือครอบครัวนี้ อย่างน้อยเด็กๆ ก็ได้เรียนหนังสือ

"เกินคาดอย่างแท้จริงครับ" นายซันนีกล่าวถึงกรณีที่ภาพถ่ายของตนเองเป็นที่สนใจมีผู้แชร์ไม่ต่ำกว่า 7,000 ครั้ง และยังมีดาราบอลลีวู้ดมากมายติดต่อเข้ามาถามว่าจะช่วยครอบครัวของอนิลได้อย่างไร ที่น่าซาบซึ้งใจมากคือมีครอบครัวที่ฐานะยากจนยิ่งกว่าครอบครัวนายอนิล อุตส่าห์เจียดเงินมาบริจาคด้วย 10 รูปี หรือ 5 บาท

นายซันนีเล่าอีกว่า หลังจากผู้คนส่งคำถามและความเห็นเข้ามาที่ภาพนี้อย่างล้นหลาม ตนจึงกลับไปคุยกับเด็กชายในภาพ เด็กเล่าว่า บางครั้งก็ติดตามพ่อไปทำงานด้วย โดยนั่งเฝ้ารองเท้าและชุดเสื้อผ้าของพ่อไว้ ไม่ให้ใครมาขโมย ระหว่างที่พ่อมุดท่อลงไป และพ่อก็บอกว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ลูกต้องลงไปในท่อระบายน้ำ ตนหวังว่าด้วยเงินบริจาคขนาดนี้ ลูกๆ ของนายอนิลจะได้ไปโรงเรียน

"ด้วยความช่วยเหลือของผู้คน เด็กๆ มีอนาคตแล้วในตอนนี้" นักข่าวซันนีกล่าว