ต้นไม้โบราณนี้จัดอยู่ในประเภทของต้นสน Heldreich's pine ถูกพบอยู่บริเวณภูเขาสูงชันภายในอุทยานแห่งชาติ Pollino ของอิตาลี โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Tuscia นำโดย Gianluca Piovesan
เมื่อทีมวิจัยค้นพบต้นไม้ที่ดูเก่าแก่มาก จึงทำการตรวจสอบอายุของต้นไม้ด้วยการนับวงปี แต่เพราะข้างในเนื้อไม้เก่าจนเป็นฝุ่น มีเนื้อไม้บางส่วนหายไปกว่า 20 เซนติเมตร ซึ่งนั่นหมายถึงวงปีที่หายไปหลายปี จนไม่สามารถนับอายุที่แท้จริงได้
พวกเขาจึงใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์นับอายุด้วยการใช้คาร์บอนกัมมันตรังสี (Radiocarbon Dating) ประกอบกับข้อมูลจำนวนวงปีจากรากและกิ่ง ซึ่งทำให้ตรวจสอบอายุของต้นสนโบราณนี้ได้แม่นยำมากขึ้น
เมื่อผลตรวจอายุออกมาก็ทำให้นักวิจัยถึงกับประหลาดใจ เพราะต้นสนนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 1,230 ปี มากกว่าต้นสนในประเทศกรีซ ที่มีอายุ 1,075 ปี ทำให้กลายเป็นต้นสนที่มีอายุมากที่สุดในยุโรป และที่ทำให้น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ พบว่าวงปียังคงขยายตัวขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา สะท้อนว่ามันยังคงมีการเจริญเติบโตอยู่ แม้ว่าจะมีบางส่วนตายแล้วก็ตาม
สิ่งที่ทำให้ต้นสนโบราณต้นนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทีมวิจัยสันนิษฐานว่าอาจมาจากสภาพแวดล้อมที่ดี เต็มไปด้วยธรรมชาติ ประกอบกับคุณสมบัติของต้นสนที่มีอายุยืนทนทาน ซึ่งแตกต่างกับต้นไม้อื่นๆ ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนนี้ที่มีการเจริญเติบโตลดลงจากสภาพอากาศ รวมถึงผลจากการรณรงค์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น