ในขณะที่ยอมรับว่าความพยายามดังกล่าวได้ผลในการช่วยลดจำนวนเด็กเล็กและทารกที่เสียชีวิตลงมา Dr. Flavia Bustreo แห่งองค์การอนามัยโลกหรือ WHO กล่าวว่า ในขณะที่มีความคืบหน้าที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอ
Dr. Bustreo กล่าวย้ำว่า การเสียชีวิตของเด็กเล็กที่เกิดขึ้นป้องกันได้ เพราะด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ ตลอดจนทรัพยากรที่มี การเสียชีวิตของเด็กเล็กสามารถป้องกันได้
การเสียชีวิตของเด็กเล็กและทารกถือเป็นโศกนาฏกรรม รายงานชิ้นล่าสุดขององค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กเล็กและทารก ชี้ว่า ทุกปีมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสียชีวิตหลายล้านคน โดยมีสาเหตุที่ป้องกันได้ อาทิ โรคมาลาเรีย ปอดบวม และท้องร่วงรุนแรง และเกือบกึ่งหนึ่งของจำนวนเด็กที่เสียชีวิตเกิดจากภาวะทุพโภชนาการ
ถึงแม้ว่า มีเด็กทั่วโลกจำนวนมากขึ้นที่มีชีวิตจนถึงอายุครบ 5 ปี Dr. Bustreo ชี้ว่ารายงานของยูเอ็นชิ้นนี้รายงานว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตของเด็กเกิดขึ้นไม่นานหลังคลอด
Dr. Bustreo กล่าวว่า การเสียชีวิตของทารกไม่นานหลังคลอดนี้มีสาเหตุจากการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกคลอดเร็วกว่าอายุครรภ์ครบกำหนดมากเกินไป ทำให้มีน้ำหนักตัวตอนคลอดน้อย เด็กเสียชีวิตจากอาการอักเสบในกระแสเลือด การติดเชื้อรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการคลอด และยังอาจเกิดจากภาวะขาดอากาศหายใจ
ในขณะที่ทารกอยู่ในครรภ์ ทารกจะอยู่ในน้ำคร่ำ และน้ำคร่ำนี้จะอยู่ในปากของทารก ในหูและในจมูก หลังคลอดแล้ว หากทารกหายใจไม่ได้และผู้ทำคลอดไม่รู้วิธีทำให้ทางเดินหายใจของทารกปลอดจากน้ำคร่ำ ทารกก็จะเสียชีวิตโดยไม่จำเป็น
เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปียังมีโอกาสสูงกว่าผู้ใหญ่ที่จะเสียชีวิตจากมาลาเรีย ปัจจุบัน วัคซีนป้องกันไข้เหลืองและมาลาเรียช่วยป้องกันไม่ให้เด็กเล็กจำนวนมากเสียชีวิต หลายประเทศอย่างเช่น แทนซาเนีย ได้จัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศ ปรับปรุงระบบสุขาภิบาล และจัดหาน้ำดื่มที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน
แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในการลดการเสียชีวิตของเด็กทารก แต่ปัญหานี้ยังไม่หมดไป และรายงานของยูเอ็นชิ้นนี้ชี้ว่า หากยังไม่ดีขึ้นกว่านี้ จากนี้ไปจนถึงปี ค.ศ. 2030 หรือตลอดระยะเวลา 13 ปี จะมีเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเสียชีวิตและกึ่งหนึ่งจะเป็นทารกแรกคลอด