บุกจับ 12 สาวข้ามเพศ ตร.บังคับเข้าคอร์ส 3 วัน เค้นเปลี่ยนเป็นชายแท้!!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก บุกจับ 12 สาวข้ามเพศ ตร.บังคับเข้าคอร์ส 3 วัน เค้นเปลี่ยนเป็นชายแท้!!
เมื่อ 29 ม.ค. บีบีซีรายงานกระแสวิจารณ์ตำรวจจังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซีย หลังนำกำลังบุกค้นร้านทำผม และจับกุมหญิงข้ามเพศ 12 คนมากักกันตัวนาน 3 วัน เพื่อปรับพฤติกรรมให้เป็นชายแท้ ทั้งบังคับตัดผมและสวมเสื้อผ้าผู้ชาย ส่งผลให้กลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนแถลงประณามว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายลิดรอนสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
อาห์มัด อุนตุง ซูเรียนาตา ผกก.ตำรวจจังหวัดอาเจะห์ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีทางโทรศัพท์ว่า ทางตำรวจกักกัน 3 วัน เพื่อให้คำปรึกษาและการสอน ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และตอนนี้ต่างทำตัวเหมือนผู้ชายปกติ
จากนั้นหันไปตะโกนถามผู้หญิงข้ามเพศว่า ตอนนี้พวกคุณยังเป็น "วาเรีย" (คำเรียกผู้หญิงข้ามเพศในภาษาอินโดนีเซีย) อยู่หรือเปล่า ผู้หญิงข้ามเพศก็ตอบกลับอย่างกดดันว่า "ไม่ได้เป็นแล้ว"
ผกก.ตำรวจจังหวัดอาเจะห์ กล่าวว่า ชุดตำรวจบุกจู่โจมภายใต้ "ปฏิบัติการต่อต้านความป่วยทางศีลธรรม" หลังจากเพื่อนบ้านใกล้เคียงร้องเรียนว่า กลุ่มบุคคลข้ามเพศจะมีผลเชิงลบต่อลูกหลานของคนในชุมชุน
ด้าน เบกา อูลุง ฮัพซารา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอินโดนีเซีย กล่าวว่า พลเมืองสมควรได้รับการปกป้องและปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน หลังจากเห็นรูปภาพและข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับการบุกจู่โจมของตำรวจ เป็นทีชัดเจนว่า ได้ละเมิดระเบียบของตำรวจเอง หน้าที่ของตำรวจควรปกป้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มบุคคลข้ามเพศเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม จังหวัดอาเจะห์เป็นเขตปกครองเดียวในอินโดนีเซียที่ใช้กฎหมายชารีอะห์มากว่า 10 ปี และการรักร่วมเพศถือเป็นการละเมิดกฎ แต่ไม่ใช่กับบุคคลข้ามเพศ
รีเบกกา เฮนช์เค บรรณาธิการบีบีซี แผนกอินโดนีเซีย รายงานว่า อินโดนีเซียมีวัฒนธรรมและประเพณีบุคคลข้ามเพศอันยาวนาน ซึ่งมีประวัติศาสตร์กับการเผชิญกับความอดกลั้นจากสาธารณะชน แต่ในหลายปีที่ผ่านมา มีการต่อต้านกลุ่มความหลากหลายทางเพศ (แอลจีบีที) มากขึ้นทั่วประเทศ จากพลังแห่งความเกลียดชังของผู้นำศาสนาและนักการเมืองชั้นนำของประเทศ
แม้กระทั่งในกรุงจาการ์ตา ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มแอลจีบีที ตำรวจได้บุกจู่โจมตามบาร์ของกลุ่มแอลจีบีทีหลายครั้ง และจับกุมคนรักร่วมเพศภายใต้กฎหมายควบคุมสื่อลามกอนาจารของอินโดนีเซีย
ที่มา : ข่าวสด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น