ความตายอยู่ใกล้เราแค่เอื้อม!! จนท.อาบยาศพ เผยเรื่องจริงสุดหดหู่?

Pasu ชายวัย 36 ปี เขาทำงานเกี่ยวกับการอาบยารักษาศพมาได้ 13 ปีแล้ว เมื่อถูกถามถึงสาเหตุที่เขาเข้ามาทำงานนี้ เขากล่าวว่า "มีญาติแนะนำให้ผมมาทำกับหัวหน้าผม ผมเห็นมันเป็นงานที่แปลกใหม่ดี จึงรับปากจะมาลองทำเป็นงานพาร์ทไทม์ดู เพื่อหารายได้เสริม"

Pasu ให้สัมภาษณ์กับสื่อฮ่องกง Apple Daily ว่า วันแรกที่เขาไปเรียนรู้งานกับหัวหน้าของเขา เขาเพียงแค่เรียนวิธีการอาบน้ำศพและซ่อมแซมใบหน้าให้กับศพเท่านั้น

และสิ่งที่เขาจดจำได้ก็คือหัวหน้าจะพาเขาไปกินก๋วยเตี๋ยวเครื่องในตุ๋น ซึ่งมันเป็นประเพณีที่อาชีพนี้เขาต้องทำกันอยู่แล้ว เพื่อทดสอบว่าจะเหมาะกับงานนี้จริงหรือไม่ และปรากฏว่าเขาสามารถกินก๋วยเตี๋ยวเครื่องในตุ๋นเข้าไปจนหมดชามและไม่มีอาการคลื่นไส้ใดๆ

ด้วยประสบการณ์ที่ได้ทำงานนี้มา 13 ปี Pasu จึงเคยได้สัมผัสกับศพมาแล้วหลายพันศพไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือเพื่อน เขาเผยว่า งานของคนอาบยาศพ นอกจากจะช่วยรักษาศพและป้องกันการเน่าเปื่อยเสื่อมสลายแล้ว ยังต้องพยายามซ่อมแซมศพให้มีลักษณะคล้ายยังมีชีวิตอยู่ตามคำสั่งของผู้เสียชีวิตหรือญาติ ศพที่เขาลืมยากที่สุดก็คือศพของคนที่ตกตึกฆ่าตัวตาย เขาต้องพยายามซ่อมแซมใบหน้าของผู้เสียชีวิต เพื่อให้ครอบครัวรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อเห็นหน้าผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ในระหว่างนี้เขาก็สามารถใช้ความรู้ที่เรียนมาจากวิชาศิลปะนั้นได้อย่างเต็มที่

Pasu เผยว่า เขาเคยเจอศพของผู้สูงอายุมามากมาย เขาพบว่าหลายคนมีอาการกระดูกสันอกหัก เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาเคยเข้าห้องฉุกเฉินมาก่อนที่จะเสียชีวิตลง เขายังจำคนแก่รายหนึ่งได้ คนแก่รายนี้ไม่กลัวกับความตายนะ แต่กลับกลัวความเจ็บปวดแทน เพราะว่าเขาเจ็บปวดและทรมาน เขาจึงอยากจะดึงท่อต่างๆ ที่เสียบกับร่างกายของตัวเองออก แต่กลับไม่สามารถทำได้ เพราะว่าแขนของเขาถูกมัดไว้กับเตียงจนแขนของเขามีแต่รอยช้ำและแผลเป็นเต็มไปหมด เมื่อใดก็ตามที่Pasu เห็นคนแก่เหล่านี้นอนทรมานอยู่บนเตียงและกำลังรอความตาย เขาก็จะมีรู้สึกว่า บางที การที่มีอายุยืนยาวก็ไม่ใช่ว่าจะดี

การที่ได้ทำงานและคลุกคลีกับศพมามากมาย ทำให้ Pasu เข้าใจว่า ความตายอยู่ใกล้ตัวคนเรามาก มีคนตายเกือบทุกวัน มีทั้งหนุ่มสาว คนแก่ คนดัง หรือคนธรรมดา เวลาตายแล้วไม่มีความแตกต่างกันเลย มาตัวเปล่าไปตัวเปล่าจริงๆ

"ไม่มีใครสนใจว่า คุณเคยมีอะไรมาก่อนจะจากไป ทุกคนสนใจแต่ว่าคุณเคยทำอะไรไว้บ้าง ทำเพื่อให้กับญาติ เพื่อนๆ ของคุณ และสังคม" Pasu กล่าว

แม้ว่าแพทย์แผนปัจจุบันจะสามารถช่วยยืดอายุให้กับผู้คนได้ แต่ก็ช่วยห้ามความเจ็บปวดความทรมานก่อนตายไม่ได้ จนมีคนแก่มากมายไม่กลัวความตาย แต่กลับกลัวความเจ็บปวดก่อนตายแทน