คนงานก่อสร้างขวัญผวา!! พบศพปริศนากว่า 7,000 คน ถูกฝังใต้อดีตโรงพยาบาลบ้า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก คนงานก่อสร้างขวัญผวา!! พบศพปริศนากว่า 7,000 คน ถูกฝังใต้อดีตโรงพยาบาลบ้า
ขณะเตรียมสร้างถนนและห้องวิจัย คนงานก่อสร้างพบศพจำนวนมากฝังอยู่ใต้พื้นที่ที่เคยเป็นสถานพยาบาลคนวิกลจริต ในรัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา คาดว่ามีมากถึง 7,000 ศพ เตรียมเผยรายชื่อเร็วๆ นี้
8 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา นิตยสาร Laboratory Equipment รายงานว่า พบศพนับพันอยู่ใต้ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี ขณะเตรียมการสร้างอาคารอนุสรณ์และห้องปฏิบัติการเพื่อศึกษาผู้ป่วยทางจิต
ทั้งนี้ เมื่อ ค.ศ.2013 คนงานก่อสร้างที่ทำถนนในศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี วิทยาเขตแจ็กสัน พบศพ 66 ศพจากสถานพยาบาลคนวิกลจริตแห่งรัฐมิสซิสซิปปี (Mississippi State Asylum) ที่เคยตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวระหว่าง ค.ศ.1855-1935 ปี ต่อมาเมื่อใช้เรดาร์ตรวจพื้นที่ขณะกำลังสร้างที่จอดรถ คนงานก็พบศพอีกอย่างน้อย 2,000 ศพในพื้นที่ที่เรียกว่าอะไซลัมฮิลล์ (Asylum Hill)
ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจมีศพฝังอยู่ในพื้นที่ขนาด 20 เอเคอร์แห่งนี้ มากถึง 7,000 ศพ เจอรี มิตเชล แห่งสำนักข่าวคลาเรียน-ลีดเจอร์ในเครือหนังสือพิมพ์ USA Today กล่าวว่า มหาวิทยาลัยคาดว่าค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายและฝังศพอดีตผู้ป่วยในสถานพยาบาลแห่งนี้ใหม่ แต่ละศพคิดเป็นเงินราว 3,000 เหรียญ หรือเมื่อคิดทั้งหมดก็ประมาณ 21 ล้านเหรียญ ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยก็กำลังหาทางที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายดังกล่าวลดลง
"การเคลื่อนย้ายศพมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากมีมาตรฐานว่าด้วยจริยธรรมและวิชาชีพโบราณคดีกำหนดไว้" มอลลี ซักเคอร์แมน นักมานุษยวิทยาชีวภาพ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิสซิสซิปปี กล่าว
หากมหาวิทยาลัยระดมทุนได้สำเร็จก็จะเกิดเป็นอนุสรณ์สถาน ศูนย์นักท่องเที่ยวและห้องวิจัยที่เป็นที่รวมของนักมานุษยวิทยา นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ "ที่แห่งนี้ถือว่าเป็นที่ที่พิเศษสุดของมิสซิสซิปปี" ซักเคอร์แมน กล่าว "จะเป็นศูนย์ระดับชาติเพื่อศึกษาเอกสารประวัติศาสตร์ว่าด้วยสุขภาพในช่วงก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่สมัยใหม่ โดยเฉพาะการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบผู้ป่วยด้านนี้"
มีรายงานว่าสถานพยาบาลผู้ป่วยวิกลจริตของรัฐบาลจัดตั้งที่รัฐมิสซิสซิปปีเป็นแห่งแรก มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาราว 35,000 คน และมีผู้เสียชีวิตระหว่างการรักษารวมถึง 9,000 รายก่อนจะปิดทำการในทศวรรษ 1930 ร่างผู้ป่วยส่วนใหญ่ถูกฝังไว้ในบริเวณสถานพยาบาลนั่นเอง ทั้งนี้ จะมีการนำรายชื่อผู้เข้ารับการรักษาทั้งที่มีชีวิตอยู่และเสียชีวิตในระหว่างสถานพยาบาลเปิดทำการอยู่ออกเผยแพร่แบบออนไลน์ในอนาคต
ระหว่างที่โครงการจัดตั้งศูนย์วิจัยอะไซลัมฮิลล์ (Asylum Hill Center) ยังอยู่ระหว่างการระดมทุนนั้น ปัจจุบันนักวิชาการก็ศึกษาศพ 66 ศพแรกที่ค้นพบเมื่อ ค.ศ.2013 โดยกลุ่มแรกจะพิจารณาจาก DNA ของแบคทีเรียในฟันของศพซึ่งเสียชีวิตลงก่อนที่จะมียาปฏิชีวนะใช้ กลุ่มที่สองจะพิจารณาหาร่องรอยของผู้ป่วยที่อาจมีอาการของโรคขาดสารไนอะซีนซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามินบีเป็นเวลานานจนนำไปสู่การเกิดอาการจิตเสื่อม (demetia) จนต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลแห่งนี้ และกลุ่มที่สามจะศึกษาไอโซโทปของสารกัมมันตรังสีในศพเพื่อศึกษาการใช้ชีวิตของผู้ป่วยเหล่านั้น
ที่มา : tnews
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น