หนุ่มนัดเดทสาว สร้างวันแสนโรแมนติก ก่อนจะทำเรื่องเลวร้าย นานกว่า 10 ปี พบเหยื่ออายุน้อยสุดวัยเพียง 14!?

เว็บไซต์เดอะการ์เดียน ระบุว่า วาเลนติโน ตัลลูโต หนุ่มนักบัญชีชาวอิตาลี วัย 33 ปี ซึ่งมีเชื้อเอชไอวี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ภายหลังสืบทราบว่า เขาได้ล่อลวงหญิงสาวผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ มาเป็นเวลานานร่วม 10 ปี รวมหญิงสาวที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยจำนวนมากกว่า 53 ราย ในจำนวนนี้ตกเป็นเหยื่อได้รับเชื้อเอชไอวี จากเขาทั้งสิ้น 32 ราย และยังเผยอีกว่า สามีของหญิงที่ตกเป็นเหยื่อจำนวน 3 ราย ติดเชื้อไวรัสร้ายแรงดังกล่าว อันสามารถส่งผลแก่ชีวิต ขณะที่ทารกน้อยวัย 8 เดือนของเหยื่อสาวอีก 1 ราย ได้รับเชื้อเอชไอวีด้วยเช่นกัน

โดยการพิจารณาคดีดังกล่าว มีขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ที่ศาลในกรุงโรม โดยมีเหยื่อสาวได้ออกมาเปิดเผยถึงวิธีการที่นายตัลลูโต ผู้ต้องหา ใช้หลอกล่อ โดยการนัดเดท ชวนไปดินเนอร์ดื่มไวน์ หยอดคำหวานว่าตกหลุมรัก ก่อนจะชักชวนให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยไม่มีการป้องกัน หากเหยื่อสาวรายใดบอกให้เขาใส่ถุงยางอนามัย เขาก็จะอ้างว่ามีอาการแพ้ และปลอดเชื้อเพิ่งไปตรวจเอชไอวีมา เหยื่อหญิงสาวจำนวนมากเป็นนักศึกษา ขณะที่บางรายเป็นคุณแม่ โดยเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 14 ปี ส่วนเหยื่อที่อายุมากที่สุดมีอายุ 40 ปี ทั้งนี้ เขายังเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงพร้อมกันทีเดียวถึง 6 คนด้วยกัน โดยภายหลังจากนายตัลลูโตปิดปากเงียบมานาน ในที่สุดเมื่อสิ้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา เขาก็ยอมกล่าวแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้วา เข้าตั้งใจให้เกิดผลที่ตามมาเช่นนี้ ทางศาลจึงพิจารณาตัดสินว่า จำเลยมีความผิดฐานแพร่เชื้อร้ายแรง อันเป็นอันตรายต่อร่างกายและไม่สามารถรักษาให้หายได้ ตัดสินโทษจำคุก 24 ปี

จากกรณีดังกล่าวยังมีชายหนุ่มที่มีพฤติกรรมดังกล่าวเช่นกันคือ ดารีลล์ โรวี หนุ่มช่างตัดผมหน้าตาดีวัย 26 ปี จากเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ แม้เขาคนนี้จะเป็นเกย์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาผิดปกติ หากแต่เป็นเพราะพฤติกรรมของเขา ที่จงใจปล่อยเชื้อเอชไอวีใส่กับคู่นอนที่เจอกันผ่านแอปพลิเคชัน Grindr แอปพลิเคชัน หาคู่สำหรับชายรักชาย และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจก็ส่งข้อความไปเยาะเย้ยว่า เขาได้แพร่เชื้อเอชไอวีไปให้แล้ว โดยโรวีรู้ตัวว่าติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 ซึ่งในตอนแรกเขาได้กินยาต้านเชื้อไม่ให้ไวรัสเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งยานี้จะส่งผลให้เปอร์เซ็นต์การแพร่เชื้อไวรัสน้อยลง ทว่าหลังจากนั้นเขาได้เลิกกินยาต้านเชื้อ แล้วก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองไบรตัน ในอีสต์ซัสเซกซ์ ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการหาเหยื่อเพื่อลงมือก่อเหตุ ซึ่งพฤติกรรมของเขาคือ เริ่มจากการติดต่อเหยื่อชายหนุ่มผ่านทางแอปพลิเคชันดังกล่าว ไปเป็นคู่นอนด้วย โดยการหลับนอนด้วยกันบางครั้ง เขาปฏิเสธที่จะใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่หากเหยื่อยืนยันที่จะใส่ เขาก็จะแอบฉีกถุงยางอนามัยให้เชื้อผ่านเข้าไปได้ จากนั้นหลังจากแยกย้ายกัน เขาก็ส่งข้อความไปเยาะเย้ยเหยื่ออย่างมีความสุข ซึ่งได้เริ่มก่อเหตุตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 จนถึงเดือนธันวาคม 2559 รวมเหยื่อทั้งหมด 10 ราย มีเหยื่อที่เคราะห์ร้ายได้รับเชื้อเอชไอวีทั้งหมด 4 ราย ส่วนอีก 6 ราย โชคดีที่ไม่สำเร็จ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานเป็นกล่องบรรจุถุงยางอนามัยที่ถูกฉีกปลายเอาไว้ เพื่อใช้สำหรับแพร่เชื้อ ถูกตั้งข้อหาแพร่เชื้อไวรัสร้ายแรงอันเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย 4 ข้อหา และพยายามทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายร้ายแรง 6 ข้อหา อย่างไรก็ดี โรวีปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยขณะนี้คดีความกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการพิจารณาคดีของทางศาล

โดยรวมแล้วการโดนหลอกแบบนี้เป็นสิ่งที่เราต้องป้องกันไว้ดีกว่าแก้ โดยวิธีการง่ายๆ เลยคือเราต้องใช้โซเชียลอย่างมีสติ เมื่อรู้แล้วว่าอะไรจะนำไปสู่อันตรายแบบไหนได้บ้างก็ต้องคิดก่อนโพสต์ให้มากๆ อย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัวหรือภาพที่เป็นส่วนตัวมากๆ ลงไปเพราะสุดท้ายมันอาจจะไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวของเราอย่างที่คิด รวมถึงการตั้งค่าความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญว่าจะให้ใครเห็นโพสต์ไหนได้ได้บ้าง โพสต์ไหนเปิดเป็นสาธารณะได้ โพสต์ไหนไม่ควร และสุดท้ายอย่างเชื่อใจใครง่ายๆ ควรจะมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลหรือร้านค้าต่างๆ ก่อนเสมอ

ที่มา เว็บไซต์เดอะการ์เดียน