เบรกนาทีสุดท้าย!! ทรัมป์กั๊กข้อมูลเขย่าขวัญคดีลอบฆ่าเจเอฟเค ตามคำขอซีไอเอ-เอฟบีไอ (มีคลิป)

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. เอพีรายงานความความคืบหน้าการเปิดแฟ้มลับคดีลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี หรือเจเอฟเค เมื่อปีค.ศ.1963 หรือพ.ศ. 2506 ตามการอนุมัติของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน ว่าหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐปล่อยเอกสาร 2,800 หน้าออกมาแล้ว แต่บางส่วนกลับถูกสกัดไว้ในนาทีสุดท้าย ตามคำขออุทธรณ์ของซีไอเอและเอฟบีไอ

"ผมไม่มีทางเลือก ถ้าข้อมูลบางส่วนหลุดออกมาอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ถ้าปล่อยให้ออกมาตอนนี้" นายทรัมป์กล่าว และว่าตนเองระงับข้อมูลเสี่ยงดังกล่าวไว้ให้ทบทวนภายในเวลา 6 เดือน

สำหรับเอกสารข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาทางออนไลน์ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ เป็นข้อมูลส่วนใหญ่จาก 3,100 กว่าหน้าที่สาธารณชนไม่เคยเห็นมาก่อน จากทั้งหมด 30,000 หน้าที่เคยทยอยเผยแพร่ออกมาแล้ว ตามผลของกฎบัญญัติ 1992 เมื่อปีพ.ศ.2535 ที่กำหนดว่า ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดภายใน 25 ปี นับจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ ยกเว้นประธานาธิบดีจะใช้อำนาจระงับยับยั้ง

บรรดานักวิชาการและนักประวัติต่างอึดอัดและกระวนกระวายในช่วงรอการเปิดข้อมูลสุดท้ายของคดี ขณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่หอจดหมายเหตุต่างไม่ปริปากใดๆ ช่วงที่นายทรัมป์ต้องตัดสินใจในนาทีสุดท้าย ตามการอุทธรณ์ของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ หรือซีไอเอ และสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ

เอพีรายงานว่า นักประวัติต่างคาดการณ์ว่าจะไม่มีข้อมูลน่าตื่นตะลึงจากแฟ้มลับคดีลอบสังหารเคนเนดี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2506 แต่บางส่วนอาจช่วยลบล้างทฤษฎีสมคบคิดบางส่วนได้บ้าง

"ยิ่งรัฐบาลเก็บเอกสารอย่างนี้ไว้นานเท่าใด ก็ยิ่งไปทำให้ข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับคดีลอบสังหารเคนเนดีน่าสงสัยมากขึ้น" นายแพทริก มานีย์ นักประวัติศาสตร์ ประจำวิทยาลัยบอสตัน กล่าว

เมื่อปี 2507 คณะกรรมาธิการสอบสวนข้อเท็จจริงคดีลอบสังหารเคนเนดี หรือ วอร์เรน คอมมิชชัน รายงานผลการสอบสวนว่า นายลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ผู้ลั่นไกสังหารประธานาธิบดีเคนเนดีลงมือตามลำพัง และไม่มีหลักฐานใดสนับสนุนว่า ซีไอเอเข้าไปเกี่ยวพันกับการลงมือในครั้งนี้