รอยเตอร์ - ศาลเกาหลีใต้เริ่มไต่สวนคดีทุจริตที่อดีตประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ตกเป็นผู้ต้องหาในวันนี้ (23 พ.ค.) โดยอัยการกล่าวหาอดีตผู้นำหญิงวัย 65 ปี ว่าใช้อำนาจในทางมิชอบรีดสินบนจากกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่เป็นเงินหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ พัค ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง
พัค ซึ่งสวมสูทสีน้ำเงิน รวบผมติดกิ๊บ และใบหน้าไร้เครื่องสำอาง เดินทางไปถึงศาลกรุงโซลในสภาพถูกสวมกุญแจมือ ซึ่งการขึ้นศาลในวันนี้ (23) นับเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของเธอหลังถูกจับกุมเมื่อเดือน มี.ค.
พัค ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกที่ถูกขับพ้นตำแหน่ง มีสิทธิ์ถูกจำคุกนานกว่า 10 ปี หากศาลวินิจฉัยว่าเธอมีความผิดจริงฐานรับสินบนจากพวกผู้นำ "แชโบล" รวมไปถึง เจย์ วายลี ประธานซัมซุง ซึ่งว่ากันว่าได้จ่ายเงินให้แก่ พัค และเพื่อนหญิงคนสนิทสูงถึง 29,800 ล้านวอน
"ผู้ต้องหา พัค กึน-ฮเย ได้สมคบกับ ชอย ซุน ซิล เพื่อนของเธอ ใช้อำนาจโดยมิชอบ กดดันให้บริษัทหลายแห่งจ่ายเงินสินบน ซึ่งถือเป็นการเรียกรับผลประโยชน์เข้าตัว" ลี วอนซ็อก อัยการอาวุโส ให้การต่อศาล
พัค ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิด
ทนายของพัคได้ปฏิเสธทั้ง 18 ข้อหาที่มีการแจ้งเอาผิดเธอในช่วงก่อนพิจารณาคดี (pre-trial) ขณะที่ประธานซัมซุงก็ปฏิเสธเรื่องที่เขาติดสินบน พัค เพื่อแลกกับการที่ภาครัฐจะเอื้อประโยชน์บางอย่างให้แก่อาณาจักรธุรกิจของเขา
"ไม่มีเหตุผลที่ประธานาธิบดีพัคจะต้องไปบังคับขูดรีดเงินจากบริษัทต่างๆ ทั้งที่ไม่สามารถจะนำเงินนั้นมาใช้ประโยชน์ส่วนตัวได้" ยู ยองฮา ทนายของพัคกล่าวต่อศาล
"ประธานาธิบดีไม่สามารถดึงเงินจากมูลนิธิทั้ง 2 แห่งมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว เพราะไม่มีบุคคลใดที่มีสิทธิ์ถอนเงินออกจากกองทุนได้อย่างอิสระ" ยู กล่าว โดยอ้างถึงมูลนิธิไม่แสวงผลกำไร 2 แห่งที่ตั้งขึ้นเพื่อระดมทุนขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของ พัค
พัค นั่งฟังการไต่สวนด้วยสีหน้าอมทุกข์ ขอบตาบวมเล็กน้อย และมองไปข้างหน้าเกือบตลอดเวลา โดยมีทนายความนั่งอยู่ข้างๆ รวมถึง ชอย ซุนซิล ที่ตกเป็นจำเลยร่วมกับเธอ
เมื่อผู้พิพากษาขอให้ พัค ชี้แจงข้อมูลพื้นฐานส่วนตัว เธอก็ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ดิฉันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร"
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า พัค ไม่ต้องการให้มีคณะลูกขุนร่วมพิจารณาความผิดของเธอ
ทั้งนี้ แม้จำเลยจะมีสิทธิขอรับการไต่สวนโดยคณะลูกขุน แต่คำวินิจฉัยนั้นยังไม่มีผลบังคับ และสามารถถูกเปลี่ยนแปลงโดยผู้พิพากษาได้
ด้าน ชอย ได้ให้การต่อศาลทั้งน้ำตาว่า "ดิฉันทำงานรับใช้ประธานาธิบดีพัคมานานกว่า 40 ปี ดิฉันเสียใจที่ทำให้ประธานาธิบดีพัคต้องมาตกเป็นจำเลยในศาลเช่นนี้"
เธอยืนยันด้วยว่า พัค "ไม่ใช่คนที่ใครจะเอาเงินมาหลอกล่อได้"
ชาวเกาหลีใต้ที่ยังรักและศรัทธาในตัวอดีตผู้นำหญิงได้มาชุมนุมที่นอกศาล และบริเวณประตูเรือนจำที่ พัค ถูกคุมขังอยู่ พร้อมกับโบกธงชาติและเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวเธอเป็นอิสระ
การไต่สวนนัดแรกมีขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากพิธีสาบานตนของประธานาธิบดี มุน แจ อิน ซึ่งให้สัญญาว่าจะมีมาตรการดัดหลังพวก "แชโบล" ที่ทำผิดกฎหมาย
พัค ถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 31 มี.ค. หรือราว 3 สัปดาห์หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งถอดถอนเธอจากตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ โดยผู้พิพากษาที่ออกหมายจับเห็นว่ามีความเสี่ยงที่เธอจะหลบหนี หรือทำลายพยานหลักฐาน
สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า พัค ใช้เวลาส่วนใหญ่ในเรือนจำไปกับการอ่านพจนานุกรมภาษาอังกฤษ และไม่ยอมรับข่าวสารจากภายนอกเหมือนผู้ต้องขังคนอื่นๆ