วันที่ 3 มิ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สภาสภาเสี้ยววงเดือนแดง (Red Crescent) เผยว่า ร่างผู้อพยพที่สังเวยชีวิตในเหตุเรือล่มกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างมุ่งหน้าไปยังทวีปยุโรป ถูกคลื่นซัดกลับมาเกยหาดที่ประเทศลิเบีย กว่า 117 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ศพเกลื่อนน!! ทะเลกลืนร่างผู้อพยพซัดกลับไปฝั่งลิเบีย
"จนถึงขณะนี้เราพบศพแล้ว 117 ราย ในจำนวนนี้ 70 เปอร์เซนต์เป็นผู้หญิง และมี 6 รายเป็นเด็ก เรายังคงค้นหาไปตามหาดที่ใกล้เคียง" นายคาเมส เอล-บูสเซฟี โฆษกสภาพเสี้ยววงเดือนแดงในเมืองซวารา ภาคตะวันตกของประเทศลิเบีย กล่าว
ก่อนหน้านี้ พันโทไอยุบ คาสเซม โฆษกกองทัพเรือลิเบีย กล่าวถึงเหตุการณ์เรือผู้อพยพล่มในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ถึงจำนวนเหยื่อที่ใกล้กัน กล่าวคือบนเรือมรณะดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสารราว 115-125 คน
สภาพการณ์ลักลอบขนส่งมนุษย์จากลิเบียข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไปในยุโรป เผชิญภาวะวิกฤตมาตั้งแต่ปี 2554 นับจากพ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียถูกโค่นอำนาจ จากนั้นมาเกิดธุรกิจขนส่งผู้อพยพด้วยวิธีนั่งเรือที่ไม่ปลอดภัยนี้ ส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปประเทศอิตาลีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ในการเดินทางระยะทาง 300 กิโลเมตร หลายพันคนไปถึงฝั่ง แต่อีกนับพันก็ไม่รอด
เฉพาะในปีนี้ ยูเอ็นระบุว่า มีผู้อพยพข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้ายุโรปไปแล้ว 204,000 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 2,500 ราย เสียชีวิตระหว่างการเดินทางข้ามทะเล
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ เรือออกจากฝั่งตะวันตกของลิเบีย บรรทุกผู้โดยสารที่ส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกัน อาหรับ และจำนวนมากเป็นชาวโมร็อกโก นายคาสเซมกล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่าศพที่พบมาจากเรือ 3 ลำที่ล่มในน่านน้ำลิเบีย เมื่อสัปดาห์ก่อนหรือไม่ เพราะผู้ที่รอดชีวิตเล่าว่า ตอนนั้นบนเรือ 3 ลำที่เดินทางด้วยการลากด้วยเรือใหญ่ มีผู้อพยพอยู่ราว 700 คน รวมถึงเด็ก 40 คน
วันเดียวกันยังเกิดเหตุเรือบรรทุกผู้ลี้ภัยกว่า 700 คน อับปางในน่านน้ำทะเลอีเจี้ยน ทางตอนใต้นอกชายฝั่งเกาะครีต ประเทศกรีซ เบื้องต้นช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้กว่า 250 คน พร้อมเร่งค้นหาผู้ลี้ภัยอีกหลายร้อยคนที่ยังไม่รู้ชะตากรรม