น้ำลด-ไอ้เข้โผล่

ที่ผ่านมาไทยเสียหายจากภัยธรรมชาติเป็นแสนล้านบาทแล้ว หากจะลงทุนอีกแค่ไม่กี่ร้อยล้านก็อย่าขี้เหนียวเลย

น้ำลด-ไอ้เข้โผล่

เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 30 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ครม. ถึงมาตรการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากอุทกภัยว่า ในที่ประชุม ครม. จะพูดคุยเรื่องน้ำท่วมมากเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องมาตรการช่วยเหลือและการติดตามผลงานที่ได้สั่งการไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คงจะมีน้ำบ่าเข้าไปที่ จ.พิษณุโลก มากขึ้น และที่เป็นห่วงคือฝนจะตกทางภาคเหนือตอนบนมากขึ้นด้วย

ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอขออนุมัติงบประมาณติดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคเหนือวงเงิน 288 ล้านบาท ว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วย รมต.ทรัพยากรธรรมชาติฯ และนายสมิทธ ธรรมสโรช ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้เสนอ 3 แนวทาง คือ 1. การบูรณาการหน่วยงานต่างๆที่จะได้รับข้อมูลครบถ้วนเพื่อนำไปสู่การพยากรณ์ที่ถูกต้อง 2. ทำอย่างไรที่จะสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนให้เตรียมการอพยพได้ทันท่วงทีด้วยความปลอดภัยและลดความสูญเสีย และ 3. แนวทางการบริหารศูนย์เตือนภัยแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ต่อไปควรต้องมีระบบเตือนภัยกลางที่สามารถเตือนภัยผู้คนทั้งประเทศทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติอะไรก็แล้วแต่





นายสมิทธ ธรรมสโรช กล่าวว่า ขณะนี้มีการติดตั้งระบบเตือนภัยในพื้นที่ภาคใต้บริเวณอ่าวไทย 14 จังหวัด 48 จุด และจะมีการติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนืออีก 144 จุด ใน 15 จังหวัด คาดว่าจะติดตั้งได้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยในวันที่ 31 พ.ค.นี้ จะไปติดตั้งที่ไนท์บาซาร์ จ.เชียงใหม่ 3 จุด ระบบดังกล่าวสามารถเตือนภัยได้ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โคลนถล่ม ไฟป่า มีความแม่นยำสูง ได้ รับการรับรองจากต่างประเทศ สามารถเตือนให้ประชาชนทราบล่วงหน้าได้ 1 ชั่วโมง ใช้เงินลงทุนเพียงไม่กี่ร้อยล้าน ที่ผ่านมาไทยเสียหายจากภัยธรรมชาติเป็นแสนล้านบาทแล้ว หากจะลงทุนอีกแค่ไม่กี่ร้อยล้านก็อย่าขี้เหนียวเลย อย่างไรก็ตาม อยากให้ระวังช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไป จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปถึงเดือน ต.ค. และ พ.ย. ที่ น้ำทะเลจะหนุน และมีน้ำเหนือไหลบ่ามารวมกันที่ กทม. ขณะเดียวกันจะมีลมพายุจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ามา อาจส่งผลให้น้ำท่วม กทม.และแม่น้ำเจ้าพระยาได้





นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยจะเสนอขอ ครม. อนุมัติงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 6 จังหวัดภาคเหนือ โดยบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายบางส่วน จะขออนุมัติงบประมาณซ่อมแซมเพิ่มเติมจากเดิม 2 หมื่นบาทต่อหลัง เป็น 4 หมื่นบาทต่อหลัง พร้อมจ่ายค่าชดเชยในการซ่อมแซมบ้านให้ 3 หมื่นบาทต่อหลัง นอกจากนี้มูลนิธิไทยคมจะร่วมก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้บางส่วน ส่วนประชาชนที่ประสงค์จะสร้างบ้านเองก็จะสนับสนุนงบประมาณให้ 6 หมื่นบาทต่อหลัง จากเดิม 2 หมื่นบาทต่อหลัง นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยจะขออนุมัติขยายวงเงินโครงการเสริมสร้างศักยภาพหมู่บ้าน/ชุมชนให้เข้มแข็ง (เอสเอ็มแอล) เป็นกรณีพิเศษ โดยอาจเพิ่มงบให้อีก 1-2 เท่าตามความจำเป็น เพื่อให้คณะกรรมการหมู่บ้านและประชาชนไปร่วมกันคิดและดำเนินโครงการที่ต้องการ





ภายหลังการประชุม ครม. น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดแก้ไขและฟื้นฟูเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1. ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรัฐ และนำงบท้องถิ่นมาสมทบดำเนินการ 2. เร่งรัดดำเนินการหาศพผู้เสียชีวิต 3. เร่งซ่อมแซมถนนที่เสียหาย ให้กระทรวงคมนาคมไปทำความเข้าใจเรื่องเส้นทางน้ำ เปลี่ยนแนวเส้นถนนที่ขวางเส้นทางน้ำ เพื่อไม่เป็นปัญหาในอนาคต นอกจากนี้ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถ่ายภาพดาวเทียมเส้นทางน้ำเพื่อเป็นฐานประกอบการดำเนินการ 4. ให้กระทรวงมหาดไทยดูแลครอบครัวที่ได้รับความเดือดร้อนรุนแรงตามลำดับ 5. ให้กรมป่าไม้ทำแผนเพื่อฟื้นฟูป่าไม้ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด





สำหรับกระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการให้ ความช่วยเหลือเกี่ยวกับหนี้สินสถาบันทางการเงิน อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ฯ (ธ.ก.ส.) จะจำหน่ายลูกค้าที่เสียชีวิตให้เป็นหนี้สูญ หรือหากไม่เสียชีวิตจะขยายเวลาชำระเงินต้น ไม่คิดดอกเบี้ยไปอีก 3 ปี รวมทั้งเร่งออกเงินกู้ใหม่ ส่วนธนาคารออมสินจะพักชำระหนี้เงินกู้ โดยจะขยายเวลาชำระเงินต้นและดอกเบี้ยไปอีก 6 เดือน สำหรับผู้ที่เดือดร้อนรุนแรงจะขยายไป 1 ปี และลดดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อจากเดิม ร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 0.5 เป็นเวลา 1 ปี รวมทั้งกรมสรรพากรและกรมสรรพสามิตจะขยายเวลายื่นภาษีไปอีก 1 เดือน






เกรงว่าจะเกิดเหตุน้ำป่าและโคลนถล่มหมู่บ้านอีก หลายคนอยู่ในอาการขวัญกระเจิงเพราะฝังใจ


ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สรุปความเสียหายในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคเหนือดังนี้ มีผู้เสียชีวิต 77 ราย สูญหาย 39 ราย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 555 หลัง เสียหายบางส่วน 3,009 หลัง ถนน 562 แห่ง สะพาน 91 แห่ง พื้นที่เกษตร เสียหาย 359,778 ไร่ สถานศึกษาและส่วนราชการ 73 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 256,805,000 บาท แต่ยังไม่รวมความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน


นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อเสนอให้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัยในจังหวัดภาคเหนือ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าโครงการดังกล่าวต้องมีการขออนุมัติใช้งบประมาณ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย จึงจำเป็นต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสียก่อน จึงมอบหมายให้ตนนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.ก่อน โดยจะมีการประชุมในสัปดาห์นี้ ก่อนจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.โดยเร็วต่อไป



สำหรับบรรยากาศที่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ หลังจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเยี่ยมและให้กำลังใจราษฎรในพื้นที่บ้านมหาราช ต.แม่พูล เมื่อวันที่ 29 พ.ค.นั้น นายพล ฟองฟู อายุ 45 ปี ราษฎรบ้านมหาราช เปิดเผยว่า ชาวบ้านมีขวัญกำลังใจดีขึ้นมาก พากันขนย้ายสิ่งของกลับไปอยู่บ้านตัวเองเป็นคืนแรกหลังเกิดเหตุ ปรากฏว่าในช่วงกลางดึกได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง ทำให้ชาวบ้านหวาดผวาแตกตื่นหอบลูกจูงหลานรีบอพยพขึ้นที่สูงเป็นที่โกลาหล เพราะหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุน้ำป่าและโคลนถล่มหมู่บ้านอีก หลายคนอยู่ในอาการขวัญกระเจิงเพราะฝังใจจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ พอฝนเริ่มตกหนักพวกผู้ชายที่คอยเฝ้าระวังอยู่ก็ร้องตะโกนบอกให้ทุกคนรีบวิ่งออกจากหมู่บ้านทันที






สิ่งของมาส่งให้แค่บ้านผามูบ คนเดือดร้อนจริงๆก็ไม่ได้ คนที่ได้ก็เป็นคนจากที่อื่นที่ไม่เดือดร้อน


ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านมหาราชว่า สิ่งของที่บริจาคมาช่วยเหลือมากมาย แต่จนถึงบัดนี้ยังแจกจ่ายไปไม่ทั่วถึง เพราะบ้านมหาราชอยู่ลึกในเขา สิ่งของมาส่งให้แค่บ้านผามูบ คนเดือดร้อนจริงๆก็ไม่ได้ คนที่ได้ก็เป็นคนจากที่อื่นที่ไม่เดือดร้อน ด้านนายนิพิพัฒน์ พิมพ์พิริยะกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุตรดิตถ์ เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิต จ.อุตรดิตถ์ มี 66 ราย ยังคงสูญหายอีก 37 ราย ส่วนใหญ่ผู้สูญหายอยู่ที่บ้านน้ำต๊ะและบ้านน้ำลี อ.ท่าปลา เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ลำบากเนื่องจากมีดิน โคลน ต้นไม้ และซากบ้านทับถมอยู่





นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ รอง ผวจ.อุตรดิตถ์ เผยว่า ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่โรงเรียนบ้านน้ำต๊ะ ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา เพื่อประทานถุงยังชีพพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัย 1,939 ราย ทอดพระเนตรบริเวณพื้นที่ความเสียหายและเสด็จเยี่ยมผู้ป่วยที่ รพ. อุตรดิตถ์ ด้วย





ส่วนที่ อ.เมืองอุตรดิตถ์ หลังน้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติ นายไพโรจน์ เอื้อประเสริฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เทศบาลเร่งเก็บกวาดขยะ กวาดล้างถนนหนทาง และตัดกิ่งไม้ที่หักโค่นไปทิ้ง ส่วนจุดที่ยังคงมีน้ำท่วมขังก็นำเครื่องสูบน้ำไปสูบออกอย่าง เร่งด่วน ด้านนายลิขิต ทักษิณ รองครูใหญ่ฝ่ายสัมพันธ์ ชุมชน โรงเรียนอาชีวะพระมหาไถ่พัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า จะนำช่าง 25 คนมาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดให้ฟรี ยกเว้นตู้เย็น ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ที่หน้าสถานีรถไฟหลังเก่า (หอนาฬิกา) ถนนสำราญรื่น จากนั้นจะไปซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ชาว อ.ลับแล และ อ.ท่าปลา ฟรีอีกด้วย






ตกใจเมื่อเห็นจระเข้ 2 ตัว ตัวแรกขนาดยาวกว่า 2 เมตร ขึ้นมาซ่อนตัวอยู่ในป่ากล้วยริมตลิ่ง อีกตัวโผล่เฉพาะหัวขึ้นมาจากน้ำ คาดว่าเป็นจระเข้ผัวเมีย


ที่ จ.ตาก ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดแม่ยะ หมู่ 9 ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้พบเห็นจระเข้โผล่กลางแม่น้ำปิง สร้างความหวาดกลัวให้กับพระสงฆ์และชาวบ้านเป็นอย่างมาก ได้รับการเปิดเผยจากพระสุนทร พระลูกวัดวัดแม่ยะ ว่า ในช่วงเช้าขณะจะลงไปล้างบาตรที่ท่าน้ำหน้าวัด ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นจระเข้ 2 ตัว ตัวแรกขนาดยาวกว่า 2 เมตร ขึ้นมาซ่อนตัวอยู่ในป่ากล้วยริมตลิ่ง อีกตัวโผล่เฉพาะหัวขึ้นมาจากน้ำ คาดว่าเป็นจระเข้ผัวเมีย รีบเรียกชาวบ้านมาดูต่างเชื่อว่าเป็นจระเข้ที่พลัดหลงมาจากพื้นที่อื่นในช่วงน้ำท่วม เพราะ จ.ตาก ไม่มีฟาร์ม จระเข้ ทำให้ชาวบ้านต่างหวาดกลัวไปตามๆกัน





นายแก้ว ใจงาม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/1 หมู่ 9 ต.เกาะตะเภา เผยว่า มีอาชีพเลี้ยงวัวอยู่ริมแม่น้ำปิง ว่างๆจะออกจับปลาเป็นอาชีพเสริม เห็นจระเข้ตัวใหญ่ยาวกว่า 2 เมตร คลานขึ้นมาอยู่ในกอหญ้าหลังบ้านใกล้กับคอกวัว เชื่อว่าจระเข้อยู่ในอาการหิวโซจะเข้ามากินลูกวัว พอตนเห็นจึงส่งเสียงร้องเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันจับแต่ไม่ทัน จระเข้รีบหนีลงน้ำไปอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ชาวบ้านต่างไม่กล้าลงไปอาบน้ำหรือจับปลาในแม่น้ำปิงเหมือนเคย เพราะกลัวถูกจระเข้ทำร้าย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจัดการด่วน





ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก น้ำลดเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านต่างอพยพกลับเข้าอยู่อาศัยอย่างเดิมแล้ว คงเหลือแต่ท่วมขังในพื้นที่การเกษตร สวนกล้วยไข่และฝรั่ง น้ำเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็นอบอวลไปทั่ว ชาวบ้านหวั่นจะเกิดโรคระบาดหากทางการไม่รีบเข้าไปสูบน้ำออก






ระมัดระวังอันตรายจากน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย


ขณะที่ จ.สุโขทัย ถึงแม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำยมจะลดลงไปมากจนทุกพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังมีน้ำป่าที่ไหลจาก จ.ตาก และ จ.ลำปาง ทะลักเข้าท่วมบางตำบลของ อ.เมืองสุโขทัย เช่น ต.ปากแคว ต.เมืองเก่า ต.บ้านกล้วย และ ต.ธานี บ้านเรือนกว่า 1,000 หลังคาเรือนต้องจมอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ ถนนหลายสายยังมีน้ำท่วมขัง เช่น ถนนสายบายพาส ถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร โดยเฉพาะถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ตาก ช่วงสี่แยกคลองโพธิ์ ถึงบ้านเพชรไฝ เขต ต.เมืองเก่า ยังมีน้ำทะลักเข้าท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ส่วนสถานศึกษาหลายแห่งต้องหยุดเรียนต่อไปถึงวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ขณะที่กระแสน้ำในแม่น้ำยมได้ไหลระบายไปท่วมพื้นที่บ้านบางปะ ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ แล้ว

ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 46 กองพลบินที่ 3 จ.พิษณุโลก พล.ต.ท.ณัฐพงษ์ วัฒนสุคนธ์ กรมวังผู้ใหญ่ สำนักพระราชวัง ได้นำถุงประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 1,000 ชุด และถุงประทานจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ 1,000 ชุด พร้อมน้ำดื่ม 300 โหล และสิ่งของจำเป็นอีกจำนวนหนึ่ง บรรทุกใส่เครื่องบิน ซี-130 ของกองทัพอากาศ เดินทางมาถึง จากนั้นนำขึ้นรถยีเอ็มซีของกองทัพภาคที่ 3 ไปมอบให้แก่ ผวจ.อุตรดิตถ์ และ ผวจ.สุโขทัย เพื่อจะนำไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัย โดยในวันที่ 31 พ.ค. เวลาประมาณ 12.45 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ จะเสด็จไปในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนและประทานสิ่งของให้แก่ราษฎรด้วยพระองค์เอง

ช่วงเย็นวันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนและน้ำหลากในพื้นที่ภาคเหนือล่าสุดว่า ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งใน 10 จังหวัดคือ แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย สกลนคร และอุดรธานี ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระวังภัยที่เกิดจากฝนตกหนักในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคตะวันออกและภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด ตรัง และสตูล มีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ อนึ่ง ระดับน้ำลุ่มน้ำยมบริเวณ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีผลกระทบต่อระดับน้ำบริเวณ อ.บางระกำ และ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่โดยเฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์