ส่วนการออก พรบ.นิรโทษกรรม จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ตนคงตอบไม่ได้ เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไร เพื่อเราจะแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งเป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม
เมื่อถามถึง ข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงไม่สามารถตอบได้ เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้เป็นอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่มีโอกาสพบและพูดคุย แต่ในฐานะคนรู้จัก และเขาเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้อง ก็เป็นเรื่องความผูกพันที่ดีต่อกัน ทั้งนี้ตนไม่มีอะไรจะฝากไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคิดว่าทุกคนรู้ว่ามีหน้าที่จะต้องทำอะไร
ถามถึงกระแสข่าวการแก้ไข พรบ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนพ้นมานานแล้ว และไม่ได้สนใจ อีกทั้งไม่ได้เข้าไปติดตาม ดังนั้นจึงให้คำตอบไม่ได้ เพราะตนไม่ได้ติดตาม และยังไม่ได้ศึกษารายละเอียด
ต่อข้อถามถึงการสร้างความปรองดองด้วยการล้างผิดให้ทุกฝ่ายแล้วมาเริ่มต้นใหม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่งที่จะช่วยกันพิจารณา ส่วนวัฒนธรรมประเพณีของเรา เป็นเรื่องหนึ่งที่คิดว่า การปรองดองเป็นสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ สิ่งใดที่สามารถอภัยให้กันและกันได้ก็เป็นสิ่งทีดี
เมื่อถามว่า ในช่วงที่มีความวุ่นวายอยากจะขอร้องอะไรหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะขอร้อง
เพราะตนมีหน้าที่ติดตามเท่านั้นในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีความรัก อยากเห็นบ้านเมืองของเราเจริญก้าวหน้าต่อไป ส่วนที่มีความคิดเห็นแตกต่างของหลายฝ่ายนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีปัญหาก็ต้องหาทางแก้ ทุกสังคมมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่เฉพาะสังคมของเรา เช่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีปัญหาเรื่องสีผิว ส่วนอียิปต์ก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อ ซึ่งทุกประเทศมีปัญหาภายในของตนเอง แต่เราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร นั่นคือ เรื่องที่พวกเราควรพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มคณะเสนาธิการทหารร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จะนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า จะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
หากการแสดงออกไม่ใช้ความรุนแรงก็ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ตนไม่สามารถคาดเดาได้ ส่วนที่แกนนำกลุ่มดังกล่าวมี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ
ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียนทหารรุ่น 1 ร่วมอยู่ด้วยนั้น ตนไม่ได้พบ พล.ร.อ.ชัย มานานแล้ว ตั้งแต่เกษียณอายุราชการ แต่เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อน ส่วนการทำงานทางการเมืองหรือการเคลื่อนไหวของ พล.ร.อ.ชัยเป็นเรื่องของท่าน ไม่เกี่ยวกับตน
ส่วนที่มีการพาดพิงว่า ตนอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มดังกล่าวนั้น ตนไม่มีอะไรชี้แจง ความจริงคือความจริง ตนมีงานและมีหน้าที่ของตน สิ่งที่ตนพูดคือสิ่งที่ตนทำอยู่ในขณะนี้ ส่วนที่มีการมองว่า ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายการเมืองกลัวตนนั้น ตนไม่ทราบ และไม่ต้องการทำให้ใครมากลัวตน สิ่งที่ต้องการคืออยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้ปัญหาของชาติบ้านเมืองลดลง