“ธิดา” ชี้แดงเผาหน้ากากขาวอาจมีอยู่เรื่อย ๆ เป็นกลุ่มเล็ก ขออย่าทำรุนแรงเกินกรอบกฎหมาย แฉมีบางฝ่ายพยามสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเผชิญหน้านำไปสู่รัฐประหาร หวั่นเปิดสภาแก้ รธน.มาตรา 68 นำไปสู่ความรุนแรง วอนทุกสีเสื้อช่วยทำให้บ้านเมืองเดินตามครรลอง
นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นประธานปล่อยขบวนรถมอเตอร์ไซต์อาสาสมัครตรวจสอบทุจริตการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง ว่า มอเตอร์ไซต์ทุกคนจะไปประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 171 หน่วยเพื่อสังเกตการเลือกตั้งหากมีอะไรผิดปกติ ซึ่งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา นปช.ได้ทำในลักษณะเดียวกันส่งผลให้การทุจริตการเลือกตั้งในคูหาเกิดขึ้นน้อยมาก
จึงอยากรักษามาตรฐานตรงนี้เอาไว้ เพราะต้องการให้เลือกตั้งทุกครั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด ดังนั้นขอบอกไปยังทุกพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคเพื่อไทยว่า นปช.ทำจริง จุดประสงค์ของ นปช.คือเป็นกลาง ภารกิจในครั้งนี้จึงไม่ใส่เสื้อแดงแต่เป็นเสื้อสีขาว
นางธิดา ให้สัมภาษณ์ “เดลินิวส์” ถึงกรณีการปะทะกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและหน้ากากขาวว่า เราพูดชัดเจนว่าคนเสื้อแดงต้องไม่ใส่หน้ากากแดง เพราะคนเสื้อแดงเปิดหน้าสู้มาตลอด มิฉะนั้นจะเข้าไปอยู่ในเกมของอีกฝ่าย ซึ่ง นปช.ไม่เล่นตามเกม ในตอนนี้คนเสื้อแดงบางคนเอาหน้ากากขาวไปเผาเป็นเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งการเผาอาจจะมีเรื่อย ๆ แต่เป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ
ซึ่งต้องเข้าใจว่าความอดทนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราก็ขอร้องว่าจะทำอะไรต้องมีขอบเขต อย่าทำรุนแรงเกินกรอบของกฎหมายกำหนด เพราะขณะนี้มีบางฝ่ายเรียกร้องให้ทหารทำรัฐประหาร
“ตอนนี้ฝ่ายที่ไม่ต้องการประชาธิปไตยพยายามสร้างสถานการณ์ หลอกล่อให้มีการเผชิญหน้า แต่เราจะไม่เข้าไปอยู่ในเกม ไม่ไปเผชิญหน้า ถ้าจะตั้งเวทีก็คนละเรื่อง คนละประเด็นกัน ดังนั้นการแถลงข่าวของ นปช.ในวันพุธที่ 19 มิ.ย.นี้จะมีการย้ำประเด็นนี้ต่อพี่น้องคนเสื้อแดงอีกครั้ง ขอร้องว่าอย่าไปเข้าเกมให้มีการเผชิญหน้าต่างสีเสื้อ เพราะข้ออ้างในการทำรัฐประหารครั้งที่แล้วคือการเผชิญหน้ากันของ 2 ฝ่าย ”นางธิดา กล่าว
เมื่อถามว่าประเมินว่าเปิดสภาฯในเดือน ส.ค.เหตุการณ์ทางการเมืองจะรุนแรงหรือไม่ นางธิดา กล่าวว่า มีความพยายามทำให้เกิดความรุนแรง
แต่ความรุนแรงจะไม่เกิดจากฝ่ายเราแน่นอน สำหรับประเด็นที่จะนำไปสู่ความรุนแรงคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างรัฐสภากับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ยังเป็นการต่อสู้ในระบบ อยู่ แต่ไม่รู้ว่ามีความต้องการต่อสู้นอกระบบหรือไม่ คือ การทำให้เรื่องยุ่งยากแล้วมีทหารออกมาทำรัฐประหาร ซึ่งอาจเป็นความยุ่งยากที่เกิดจากศาลรัฐธรรมนูญกับรัฐสภา
ถ้าหากมีการยุบพรรคไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ อาจจะรุนแรงดีกรีสูงขึ้นกว่าเดิม แต่บอกได้ว่าเราจะพยายามควบคุมให้ทุกอย่างอยู่ในระบบ แต่คนที่ทำให้เกิดปัญหาไม่ใช่เราเป็นฝั่งหนึ่ง ดังนั้นขอเรียกร้องประชาชนสีเสื้ออื่น ถ้าไม่อยากเห็นบ้านเมืองเสียหายยับเยินขอให้มาช่วยกันทำให้ทางออกประเทศไทยดำเนินไปในระบบหรือครรลองที่ควรจะเป็น ไม่ให้มีการทำรัฐประหาร ผู้ถือกุญแจสำคัญคือกลุ่มอำมาตย์ไม่ใช่กลุ่มเรา แต่เรามีความชอบธรรมและจะพยายามทำอย่างถึงที่สุด