นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยืนยันว่าคณะพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของนายพันคำกอง และ เด็กชายคุณากร ศรีสุวรรณ หรือ อีซา และ การบาดเจ็บของนายสมร ไหมทอง
จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553 มีความเห็นสั่งฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่น ฆ่าคนตายโดยเจตนา เล็งเห็นผลและร่วมกัน ก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตาย โดยเจตนาเล็งเห็นผล
เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน เป็นผู้กำหนดนโยบายของ ศอฉ. และตัดสินใจในการออกคำสั่ง ให้เจ้าพนักงานทหารภายใต้การบังคับบัญชาของตน ไปปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะที่ผู้ต้องหาและบุคคลทั่วไปย่อมคาดหมายหรือเล็งเห็นได้อยู่แล้วว่า
จะเกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ ของผู้ชุมนุม โดยหลังจากนี้จะสรุปสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นส่งให้พนักงานอัยการในวันพุธ ที่ 26 มิ.ย.นี้เวลา 10.00 น.
ส่วนจ้าพนักงานทหารและผู้ลงมือกระทำจนทำให้มีผุ้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่การสอบสวนมาจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่พนักงานทหารรายใด ด้วยเหตุพื้นที่และข้อจำกัด
ขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงที่เกิดความไม่เรียบร้อยของบ้านเมือง อยู่ในขณะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทหารกำหนดเขตพื้นที่ห้ามเข้า พนักงานสอบสวนไม่อาจเข้าไปเก็บพยานหลักฐาน ยึดอาวุธปืนของกลาง ตรวจหาพยานวัตถุต่างๆ หรือตรวจที่ทางอันสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้อย่างปกติทั่วไป
อีกทั้งพฤติการณ์ของเจ้าพนักงานทหาร เป็นการปฏิบัติตามคำสั่ง ศอฉ. อาจจะเข้าข่ายลักษณะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่สั่งการโดยมิชอบด้วยกฎหมายแต่ทหารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจะได้รับการยกเว้นโทษ ตามมาตรา 70 ประกอบมาตรา 62 ในชั้นนี้จึงเห็นควรไม่ดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานทหาร