เวลา 17.30น. นายร็อคแมน บุนดี ทนายความฝ่ายกัมพูชาคนที่สาม ชาวอเมริกันแถลงด้วยวาจาในคดีปราสาทพระวิหารต่อศาลโลกเพิ่มเติม โดยหยิบยกหลักฐานชี้แจงว่ากัมพูชาไม่เคยยอมรับรั้วลวดหนามซึ่งไทยเป็นฝ่ายทำขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10กรกฎาคม 2505เพียงฝ่ายเดียวและสั่งให้เจ้าหน้าที่ยิงคนที่รุกล้ำเข้ามา
นายบุนดี กล่าวว่า เมื่อสมเด็จนโรดม สีหนุ เสด็จฯเยือนปราสาทพระวิหารในปี 2506 แสดงความไม่เห็นด้วยกับลวดหนามของไทย แต่ทางไทยได้อ้างเองฝ่ายเดียวว่าสมเด็จสีหนุพอใจ ซึ่งกัมพูชาได้ร้องทักท้วงตลอด และยื่นประท้วงไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปี 2509
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ในปี 2533 - 2550 ไทยยอมรับ แผนที่ในภาคผนวกหนึ่ง (ฉบับแนบท้ายสัญญาของฝรั่งเศสที่ศาลโลกใช้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา) มาโดยตลอด กระทั่งเกิดรัฐประหารปี 2549 ไทยได้เผยแพร่แผนที่หมายเลข L7017 ลากเส้นแบ่งเขตแดนตาม มติครม.ของไทย ในปี 2505 เป็นครั้งแรก แผนที่ดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคำตัดสินของศาลโลกในปี 2505
กัมพูชาอ้างอิงจากแผนที่ในภาคผนวกหนึ่งมาโดยตลอด รัฐบาลไทยเคยยอมรับแผนที่ดังกล่าว แต่ไม่ใช่แผนที่ หมายเลข L7017 กำหนดโดยมติครม. ของไทยฝ่ายเดียว