ผู้นำฝ่ายค้าน "อภิสิทธิ์" เตือนสติรัฐ เลิกใช้ความโลภ ถลุงเงินกู้ 2ล้านล้าน ปัด ฝ่ายค้าน ไม่ขวาง โครงการพัฒนาประเทศ แต่กลัว พัฒนาไปโกงไป เอาเงินเข้ากระเป๋า โยนหนี้ให้ประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชลแนล ถึงการเตรียมอภิปรายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ว่า มีความพยายามเบี่ยงเบนว่า ฝ่ายค้านจะขัดขวางการพัฒนาตามโครงการในพ.ร.บ.เงินกู้ หรือไม่ ซึ่งขอยืนยันว่า ฝ่ายค้าน ไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด เพราะเราสนับสนุนแนวคิดในแต่ละโครงการ
ซึ่งสามารถใช้งบประมาณปกติได้ ไม่จำเป็นต้องกู้ แต่ที่ต้องออกพ.ร.บ.เงินกู้ นี้ เพราะรัฐบาลมีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงกระบวนการงบประมาณ กับหลีกเลี่ยงการใช้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ซึ่งในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เงินกู้ นี้ ฝ่ายค้านจะพูดใน 3ประเด็นคือ
1. วิเคราะห์ให้เห็นถึงผลกระทบทางด้านการเงินการคลัง
2. อภิปรายเกี่ยวกับโครงการ และ
3. อภิปรายถึงความโปร่งใส จะชี้ให้เห็นถึงปัญหา และอันตรายที่จะเกิดขึ้น จะเชื่อมโยงถึงท่าทีของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ที่เคยประกาศว่า จะไม่กู้เงิน แต่ขณะนี้กลายเป็นแชมป์เงินกู้ไปแล้ว ซึ่งเป็นการกู้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และการที่รัฐบาล บอกว่า ไม่ใช่การตีเช็คเปล่า โดยจะเปิดให้ตรวจสอบได้นั้น ที่ผ่านมา เราก็มีบทเรียนจากการใช้งบกลาง 2หมื่นล้านบาท และเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทมาแล้ว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้คงต้องตรวจสอบกันต่อไปว่า จะมีวิธีการใดๆ ในการที่จะทำให้การทำเรื่องของการลงทุนนี้ กลับเข้ามาสู่ระบบที่ควรจะเป็นในแง่ของระบบการเงินการคลัง แล้วก็งบประมาณ และหากสภาฯ ผ่านเงินกู้นี้ จนมีผลบังคับใช้ ก็ต้องไปไล่ตรวจสอบกันในการใช้จ่ายเงิน เพราะเราต้องใช้หนี้กันถึง 50 ปี ซึ่งก็มีการพูดถึงผลกระทบการเงิน การคลัง การกู้เงินชอบด้วยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
ส่วนกรณีที่ส.ว.เตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า การออกพ.ร.บ.ฉบับนี้อาจขัดมาตรา 169 นั้น ตนเห็นว่า การยื่นตีความพ.ร.บ. จะต้องให้พ.ร.บ.นั้นผ่านสภาฯ ไปก่อน ถึงจะเห็นว่า พ.ร.บ.นั้น ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ซึ่งคาดว่า กว่าจะผ่านสภาฯ ก็น่าจะประมาณเดือนกันยายน
“รัฐบาลอย่าเอาความโลภเป็นตัวนำ ถ้าทำตรงนี้แล้วจะได้เอางบประมาณไปใช้ในโครงการที่ไม่ควรจะไปใช้ ก็เท่ากับเป็นการฟุ่มเฟือย เงินรั่วไหล หรือ อาจมีการทุจริต คดโกงกันอย่างในปัจจุบัน ฉะนั้นอยากให้กลับไปทบทวนตรงนี้ มันไม่ใช่กฎหมายของกระทรวงคมนาคม แต่เป็นกฎหมายของรัฐบาลที่ให้กู้เงินซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ก็ยอมรับว่า ไม่ได้มาเกี่ยวข้องตรงนี้ มีหน้าที่ใช้เงินอย่างเดียว เราจะชี้ให้เห็นว่า การกู้ครั้งนี้เป็นภาระของประเทศ และคนส่วนใหญ่ที่คัดค้าน ไม่ได้คัดค้านการพัฒนาประเทศ แต่คัดค้าน การพัฒนาไปโกงไป เอาเงินเข้ากระเป๋าแล้วสร้างหนี้ให้กับประชาชน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว