( 9 ก.พ.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนกองทัพบกออสเตรเลียอย่างเป็นทากงารระหว่างวันที่ 9 – 15 ก.พ. ถึงข้อเสนอในการประกาศเคอร์ฟิวส์ในบางพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นข้อห่วงใยของระดับสูง ซึ่งการแก้ไขปัญหามี 2 ระดับ คือ ระดับนโยบาย มีรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการปฏิบัติคือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และ ศูนย์อำนวยการบริหารงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต. ) ส่วนผู้ปฏิบัติจริงคือกองทัพภาคที่ 4 ทั้งนี้ไม่อยากให้พูดว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ล้มเหลว เพราะเหมือนเป็นการประจานตัวเอง ทุกวันนี้ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ก็มีคดีเกิดขึ้นมากมาย แต่ภาคใต้มีความแตกต่างเพราะมีคนมองเรื่องประวัติศาสตร์ชาติพันธ์ ซึ่งแตกต่างและอ่อนไหวกว่าจังหวัดอื่น
“ทุกวันนี้ยังไม่ล้มเหลว เพราะเรายังไม่ได้เสียดินแดน การแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องใช้กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช้การปฏิบัติการทางทหาร ดังนั้นนโยบายต้องชัดเจน คือการอำนวยความยุติธรรม ไม่ละเมิดสิทธิ ซึ่งที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการมุสลิมโลก หรือ โอไอซี มาตรวจเยี่ยมพื้นที่เขาก็พอใจในการแก้ไขปัญหาถูกต้อง ถือเป็นความสำเร็จเพราะถือว่าเป็นองค์ระหว่างประเทศให้การยอมรับ ทั้งนี้ เราต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัย เพราะแก้ไขมาตั้งแต่ปี 2547 จับกุมดำเนินคดีได้เป็นร้อยคนแล้ว ขณะนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาในทางที่ถูกต้อง แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ต้องมีทหารนำ” ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การที่ระดับสูงมีความคิดนี้ขึ้นมาก็คิดตามหลักการ
หากมีปัญหาก็มาใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อต้องการลดปัญหา แต่ภาคใต้ไม่เหมือนภาคอื่น มีวิถีชีวิต มีอาชีพ ไม่อยากให้ใช้คำว่าเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม ซึ่งเราควบคุมปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่หากประชาชนเผลอ ไม่ระมัดระวังตัว มีผู้ร้ายอยู่เราก็ต้องจับกุม ซึ่งก็จับได้ทุกวัน นั่นก็คือความสำเร็จ แต่ก็ไม่ดีใจเพราะเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนที่มองว่าจะกระทบวิถีชีวิตคนในพื้นที่นั้น ตนคิดว่าเป็นมาตรการที่เจ้าหน้าที่คิด ตามความใน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุนเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร กฎอัยการศึก ซึ่งมีอีกหลายมาตรา และ หลายข้อ แต่ไม่เคยใช้ ซึ่งเมื่อจะแตะหน่อยก็ไม่ได้ พอจะใช้ก็บอกเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ได้ แต่คนที่ทำงาน เช่นผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ อำเภอ มีความเสี่ยง อีกหน่อยก็ไม่มีใครอยากทำงาน
“ทหารมีหน้าที่รับผิดชอบที่ต้องลงไปปฏิบัติแต่ก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร ได้เงินพิเศษ 2.5 พันบาท ทหารทำด้วยใจ แต่บางทีอาจมีช่องว่างทำให้เกิดความบาดเจ็บ สูญเสีย ที่ผ่านมา เรารู้ว่าใครเป็นคนทำ ทั้งพวกที่ต่อสู้ทางความคิดเพื่อแย่งชิงประชาชน และ พวกภัยแทรกซ้อนทุกรูปแบบ วันนี้อยากให้ทุกคน เช่น โอไอซี คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่บอกว่าทหารใช้ความรุนแรง ก็อยากให้มาคิดว่าจะทำอย่างไรในการทำให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัยมากขึ้นและเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงาน”ผบ.ทบ.กล่าว
เมื่อถามว่า สรุปแล้วจะผลักดันเรื่อง เคอร์ฟิวส์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า
ต้องหาวิธีการที่ดีที่สุด ไม่ให้กระทบต่อประชาชน และ ให้ประชาชนปลอดภัย ไม่ให้ต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการแก้ไขปัญหาใหญ่หลายมิติ ทุกคนต้องมาช่วยกัน ส่วนจะกระทบกับงานการพัฒนาหรือไม่นั้น ตนก็อยากถามว่า ถ้าไม่ให้ใช้จะทำอย่างไร อยู่ที่สถานการณ์ และความพึงพอใจ ไม่เห็นประเทศที่เจริญแล้วจะมีปัญหาเลย ซึ่งการประกาศเคอร์ฟิวส์นั้นใครเดือดร้อนก็ขออนุญาตได้ มีธุระก็ขอเจ้าหน้าที่ได้ ช่วงก่อนตี 4 เจ้าหน้าที่จะได้ทำงานได้สะดวก เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด แต่ถ้าไม่ให้ทำ ตนขอร้องประชาชนดูแลตัวเอง กลางคืนอย่าออกมา เจ้าหน้าที่จะได้ทำงานสะดวกมากขึ้น ทั้งอยากให้มองว่าการมีสิ่งนี้ ก็เพื่อให้เจ้าหน้าทำงาน ขอร้องว่าอย่าใช้คำว่าล้มเหลว ทุจริต และ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ขอให้ช่วยเราว่าจะทำอย่างไรให้คนไม่ถูกฆ่า