
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน
ตอกย้ำ งานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 พร้อมเชิญชวนประชาชน เข้าร่วมชมพิธีซ้อมอีกครั้ง ในวันที่ 6 พ.ย. และงานจริง ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ และร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองวาระ 150 ปี วันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ที่ กรุงปารีสและประเทศไทย ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่ กันยายน ปีนี้ ไปจนถึง กันยายน ปีหน้า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ มี 2 สาเหตุหลัก
คือ นายยุงยุทธ วิชัยดิษฐ และ นายธีระ วงศ์สมุทร ลาออก พร้อมยืนยัน การปรับครั้งนี้ไม่ใช่การปรับ ครม. ครั้งใหญ่ แต่เป็นการปรับในแต่ละกระทรวง โดยไม่ยึดตัวบุคคล และเป็นการส่งมอบงานแบบต่อเนื่อง พร้อมการติดตามผล ซึ่งจะมีการแบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรีมากสุด ส่วนงานด้านความมั่นคงนั้น จะเป็นผู้ดูแลด้วยตนเอง โดยยังใช้แผนเดิมของ ศปก.กปต. เป็นศูนย์กลางในการบูรณาการและให้ กอ.รมน. และ ศอ.บต. ดำเนินงาน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่ารัฐบาลเตรียมเดินทางไปกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 5 - 6 พฤศจิกายนนี้
เพื่อเข้าร่วมการประชุมอาเซียน กับ 49 ประเทศสมาชิก โดยจะใช้เวทีนี้แสดงจุดยืนของประเทศไทยในด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความพร้อมด้านการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก ทางน้ำ และการเดินทางเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี โดยในช่วงระหว่างวันที่ 7 - 8 พฤศจิกายน รัฐบาลจะเดินทางไปเกาะบาหลี เพื่อหารือส่งเสริมประชาธิปไตยระดับภูมิภาค และในเดือนพฤศจิกายนนี้ รัฐบาลยังมีแผนเดินทางไปเยือนประเทศอังกฤษ เพื่อหารือทวิภาคี ความร่วมมือระหว่างไทยกับอังกฤษ
โดยจะมีภาคธุรกิจร่วมเดินทางไปด้วย ประมาณ 50 บริษัท เพื่อต่อยอดการค้าการลงทุน
และจะมีการพบปะระหว่างนักธุรกิจขนาดใหญ่ของอังกฤษและไทย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างภาคธุรกิจไทย รวมทั้ง ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน นอกจากนี้ รัฐบาล ยังมีแผนเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 21 กับประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และร่วมประชุมอาเซียนพลัสกับประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี และสหรัฐอเมริกา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ประเทศคู่ค้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้นำสินค้าโอทอป จาก จ.อยุธยา และชัยนาท
ที่ผลิตจากผักตบชวามาแสดงศักยภาพ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสินค้าต้นน้ำที่ต้นทุนต่ำ และสิ่งของรอบตัวมาพัฒนาเป็นสินค้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และชุมชน โดยจะให้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้สนับสนุน รวมถึง ให้คำแนะนำและส่งเสริมทางด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการตลาด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึง กองทุนตั้งตัวได้และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยระบุว่า หากบุตรหลาน หรือ นักศึกษาจบใหม่ ต้องการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็สามารถใช้บริการกองทุนดังกล่าวได้
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว