“เฉลิม” ชี้เป็นเรื่องดีให้รางวับนำจับ ชายชุดดำ หัวละล้าน บอกมีชายชุดดำหรือไม่เป็นคนละเรื่องกับการตายถึง 98 ศพ
ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งรางวัลนำจับชายชุดดำว่า ถือเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนที่สนใจและหากรู้เบาะแสจะได้แจ้งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เมื่อถามว่า การตั้งค่าหัวแบบนี้แสดงว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมได้เองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่บางครั้งต้องรับฟังข้อมูลจากประชาชนและหากได้รับให้ความร่วมมือจากประชาชนก็ทำให้การทำงานง่ายขึ้น
เมื่อถามว่า แรงจูงใจดังกล่าวจะทำให้สามารถจับชายชุดดำได้เร็วขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ชายชุดดำมีจริงหรือไม่ตนไม่ทราบเพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ถึงแม้จะมีชายชุดดำอยู่จริงก็ไม่ใช่เหตุผลว่าต้องมีคนตายถึง 98 ศพ มันเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น และการที่ระบุว่ามีชายชุดดำอยู่ในที่ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เป็นความเห็นของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้แต่กรณีการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง แนวร่วม นปช. เป็นดุลพินิจของศาล ที่ระบุว่าตายโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฎิบัติตามคำสั่งของ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ตรงนี้จะต้องมีคนติดคุก ส่วนเรื่องชายชุดดำจะมีจริงหรือไม่นั้นก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ
ส่วนที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตกรรมาธิการ (กมธ.)พิจาณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 กล่าวกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งรางวัลเงินนำจับชายชุดดำ 1 ล้านบาท ว่า ตรงนี้ต้องขอขอบคุณนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ได้ตั้งรางวัลนำจับตามข้อเสนอของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในระหว่างการเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.งบประมาณปี56 แต่ในวันนั้นนายนายธาริตได้บอกต่อกมธ.ว่าจะตั้งวงเงินรางวัลนำจับอยู่ที่ 10 ล้านบาท ไม่ใช่ 1 ล้านบาท จึงอยากถามว่าเหตุใดวงเงินถึงได้ลดลงมามากขนาดนี้ แล้วจะคุ้มค่ากับการเสี่ยงชีวิตหรือไม่