ซัดนายทุน พ.ท.-พรรคพวกรัฐบาลได้ประโยชน์จำนำข้าว
วันนี้(10 ต.ค.)นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และแกนนำส.ว.กลุ่ม 40 กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ระบุพบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว มูลค่ากว่า 307 ล้านบาท ว่า เท่ากับ ร.ต.อ.เฉลิม ยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีปัญหา และมีการทุจริตเกิดขึ้นแล้ว โดยพยายามแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้มีการดำเนินการจับกุมกลุ่มคนที่ทำทุจริตแล้ว แต่ตนเองมีข้อมูลว่ากลุ่มคนที่ถูกจับไม่ใช่กลุ่มคนที่ทำทุจริต แต่เป็นพรรคพวกของคนในรัฐบาล เป็นนายทุนของพรรคเพื่อไทย กระบวนการทุจริต คือ การเวียนเทียนขายข้าวมีมากอย่างผิดปกติ
โครงการรับจำนำข้าวถือว่าเป็นโครงการที่แสวงหาประโยชน์เพื่อพวกพ้องของตนเอง แม้ชาวนาจะได้รับประโยชน์ แต่คนของรัฐบาลได้ประโยชน์มากกว่า คือ คะแนนเสียงจากชาวนา และผลประโยชน์จำนวนมหาศาล ทั้งนี้คณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล จะเชิญอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มาชี้แจงเพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงในเรื่องการระบายข้าว การขายข้าว ในวันที่ 11 ต.ค. จะว่าได้ขายไปจำนวนเท่าใด ประเทศใดบ้าง ทั้งนี้หากคนที่มาชี้แจงไม่สามารถตอบคำถามได้ จะใช้อำนาจตามกฎหมายคำสั่งเรียก เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
ส่วนกรณีเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 161 เพื่อให้คณะรัฐมนตรีชี้แจงโครงการรับจำนำข้าวที่มีปัญหา นายไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ ส.ว.ดำเนินการนั้น ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะล้มรัฐบาล แต่ต้องการเสนอแนวทาง และปรับปรุงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลซึ่งทีผ่านมาซึ่งพบว่ามีปัญหา อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องมาชี้แจง โดยไม่สามารถนำข้ออ้างที่ว่าได้แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชน หรือ ให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามรัฐบาล ผ่านการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มาลบล้างได้ หากคณะรัฐมนตรีไม่มาชี้แจง ตามที่ส.ว.ขอยื่นเปิดอภิปรายทั่วไป เท่ากับว่ารัฐบาลละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ที่วุฒิสภาสามารถถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ ทั้งนี้ขอคัดค้านการนำประเด็นดังกล่าว เปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เนื่องจากที่ประชุมรัฐสภา มีทั้งฝ่ายค้าน, ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว. ซึ่ง ส.ว.ไม่อยากถูกกล่าวหา หรือถูกเหมารวมว่าเป็นกลุ่มล้มรัฐบาล