27ก.ย.55 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย
ได้รับอานิสงส์จาก พรบ.ล้างมลทิน ปี 2550 ทำให้ไม่มีความผิดกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรักษาราชการปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ยืนยันว่า ทุกรัฐบาลต้องฟังความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งกรณีการล้างมลทินของนายยงยุทธเทียบเคียงจาก 2 กรณีคือ 1.พรบ.ล้างมลทิน ปี 2526 2.พรบ.ล้างมลทิน ปี 2530 กรณีนายตำรวจคนหนึ่งที่ถูกลงโทษวินัยร้ายแรงไล่ออกจากราชการไปแล้ว 8 ปี ตั้งแต่ปี 2525 ต่อมามี พรบ.ล้างมลทิน ปี 2530 ออกมา ทำให้ตำรวจคนดังกล่าวได้รับการล้างมลทิน โดยเนื้อหาใน พรบ.ล้างมลทินปี 2530 เหมือนกับ พรบ.ล้างมลทิน ปี 2550 ทุกอย่าง ส่วนกรณีที่ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า นายยงยุทธ อยู่ในข่ายตาม พรบ.ล้างมลทิน ก็นำมาจากกรณีศึกษา พรบ.ล้างมลทินปี 2530 ไม่ใช่เป็นความเห็นส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงตาม พรบ.ล้างมลทินปี 2526 กับ พรบ.ล้างมลทิน ปี 2530 แตกต่างกัน เพราะปี 2526 ระบุว่า การล้างมลทินต้องเคยถูกลงโทษมาก่อน แต่ปี 2550 ระบุว่า การล้างมลทินต้องเคยรับโทษมาก่อนบางส่วน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อย่านำปี 2526 มาเปรียบเทียบ ขอให้ไปดูเนื้อหา พรบ.ล้างมลทิน ปี 2530 ที่เหมือนกับปี 2550 หากพรรคประชาธิปัตย์ยังสงสัยอยู่ ก็ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้บิดประเด็นข้อกฎหมายเพื่อช่วย นายยงยุทธ
เมื่อถามว่า ในทางการเมือง นายยงยุทธ สมควรแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นายยงยุทธ ยังอยู่ในตำแหน่งก็ไม่ได้เป็นภาระรัฐบาล ไม่ได้อุ้มนายยงยุทธ แต่นายยงยุทธไม่มีความผิดจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง แม้ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้พิจารณา นายยงยุทธก็ไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามย้ำว่า การอุ้มนายยงยุทธ อาจทำให้รัฐบาลล่มได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครจะไปอุ้มได้ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ตกใจง่าย เมื่อถามอีก ว่า ขณะนี้มีกระแสกดดันจากภายในพรรคเพื่อไทยให้ปรับนายยงยุทธออกจากครม. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีใครกดดันได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการปรับ ครม. จำไว้ว่า แหล่งข่าวพูด แปลว่าไม่จริง