“บิ๊กแจ๊ด แจง กมธ.ตำรวจ ยัน ไม่เกณฑ์ม็อบ ป่วน “ปชป.”

วันนี้ (26 ก.ย.)  เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร

ที่มี นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาเรื่อง ที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส. ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษากรรมาธิการ เป็นผู้ยื่นญัตติ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม กรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 300 นาย ไปที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นการคุกคามพรรคการเมือง

ซึ่งคณะกรรมาธิการได้เชิญพล.ต.ท.คำรณวิทย์ พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2
 
และพ.ต.ท.ชัยพันธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ชี้แจง ทั้งนี้ยังได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าชี้แจง แต่ ผบ.ตร. มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติ เข้าชี้แจงแทน และจเรตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายต่อให้ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 10 เข้าชี้แจงแทน

โดยนายสาธิต กล่าวว่าเรื่องที่ตนเสนอถือเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ตำรวจ ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
 
และการที่ ผบช.น. ใช้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปกดดัน จนเกิดพฤติกรรมที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจ เหมาะสมหรือไม่ โดยเรื่องนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องให้ ผบ.ตร. ตรวจสอบกรณีภาพที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ติดยศให้ ซึ่งก็เป็นสิทธิที่จะยื่นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และการให้สัมภาษณ์ ของ ผบช.น. ที่ระบุว่า จะไปยื่นหนังสือที่พรรคประชาธิปัตย์ หากใครจะให้กำลังใจให้ไปที่พรรค ตนสงสัยว่า การกระทำดังกล่าวอาจผิดต่อกฎระเบียบของตำรวจหรือไม่ โดยเฉพาะการเดินทางมาของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนอาจเป็นการละทิ้งหน้าที่เนื่องจากอยู่ในเวลาราชการ


“บิ๊กแจ๊ด แจง กมธ.ตำรวจ ยัน ไม่เกณฑ์ม็อบ ป่วน “ปชป.”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาธิต ได้นำคลิปภาพที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรคเพื่อไทย

มาเปิดในคณะกรรมาธิการฯ ซี่งมีเนื้อหาการเปิดใจ เกี่ยวกับภาพที่ถ่ายกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนายสาธิต ได้ตั้งข้อสังเกตว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อาจไม่วางตัวเป็นกลาง และการเดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีการพกอาวุธประจำกายมาด้วยถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จึงขอให้กรรมาธิการฯ ได้พิจารณาว่าผิดประมวลจริยธรรมและพ.ร.บ.ตำรวจ หรือไม่

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ชี้แจงว่า การที่ตนจะเดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์นั้น เพียงต้องการไปยื่นหนังสือทำความเข้าใจ

ไม่ได้ไปเพื่อคัดค้านสิ่งที่พรรคได้ยื่นตรวจสอบ ส่วนกรณีที่มีตำรวจเดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากนั้น ตนไม่ได้เชิญชวน เพียงแต่ได้แถลงข่าวออกไป และบอกว่า ใครจะไปให้กำลังใจก็ไปเท่านั้น
และยืนยันว่า ไม่ได้เกณฑ์ตำรวจมาอย่างแน่นอน

ขณะที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า
 
ตนเห็นว่าภาพที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเกณฑ์กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะตำรวจมาเป็นม็อบเสียเอง อยากถามว่าเกียรติและวินัยของตำรวจอยู่ที่ไหน  และต่อไปจะไปควบคุมม็อบได้อย่างไร 
อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการฯ ได้ซักถามว่า ในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่เพื่อควบคุมฝูงชน บริเวณหน้าพรรคประชาธิปัตย์เท่าไหร่ เพราะมีบางนายพกอาวุธประจำกายด้วย ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อประชาชน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ระบุว่าในวันนั้น มีจำนวน 1 กองร้อย เมื่อรวมกับสน.ในพื้นที่ รวมแล้วเป็นประมาณ 200 นาย

ขณะที่พ.ต.อ.พีระพงศ์ ชี้แจงว่า ในวันดังกล่าว ตนได้นำกำลังตำรวจไปควบคุมดูแลความเรียบร้อยหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกำลังที่จัดไปนั้น ได้มีการปลดอาวุธออก แต่ที่เดินทางมาให้กำลังใจซึ่งไม่ใช่ลูกน้องของตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
 
การที่นำม็อบตำรวจไปหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้รับคำแนะนำจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี หรือไม่ และอยากถามว่า รูปถ่ายดังกล่าวยังติดอยู่ที่ห้องทำงานของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ อีกหรือไม่   
พลฺ.ต.ท.คำรณวิทย์ ชี้แจงว่า ร.ต.อ. เฉลิม ไม่เกี่ยวข้องและตำรวจปลุกม็อบไม่ได้ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจ
 
นอกจากนี้ในการพิจารณา จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการฯ 

 ได้ซักถามนายสาธิต ว่า มีเจตนาอย่างไรจึงเสนอญัตตินี้ เพราะเป็นเรื่องที่ไร้สาระและเสียเวลา ตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปเป็นการเดินทางไปเอง ถึงจะมีการพกอาวุธแต่ก็เป็นการพกขณะแต่งเครื่องแบบไป ในวันดังกล่าวตนก็เดินทางไปและไม่เห็นว่าผิดอะไร การถามเรื่องนี้เพราะอยากถามเรื่องภาพพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโจร ก็ถามมาเลยดีกว่า ทำให้นายสาธิต ได้ใช้สิทธิประท้วง จนเกิดการโต้เถียงไปมา จนในที่สุดนายฉลอง ได้ตัดบทว่า เป็นกรรมาธิการฯ ต้องไม่มีพรรค เพราะมาทำงานร่วมกัน ทำให้การประชุมสามารถเดินต่อไปได้

จากนั้นนายชูวิทย์ กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง

หากมีพรรคแล้ว แสดงออกมาจะมีปัญหา ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ยืนยันตอนท้ายว่า ตนพร้อมรับฟังเหตุผลและยอมรับความจริง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ตนด้วย ส่วนจะถูกผู้บังคับบัญชาสอบวินัยหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

และระหว่างชี้แจง พ.ต.อ.(พิเศษ) ศรศักดิ์ แก้วรักษา นายกสมาคมกฎหมายปกครองไทย ที่เข้าร่วมฟังการประชุม
 
ได้ตะโกนว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าวอยากรู้อะไรให้ถามตนได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวพ.ต.อ.(พิเศษ) ศรศักดิ์ ออกจากห้องประชุมทันที 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมได้ใช้เวลาพิจารณาในเรื่องดังกล่าวกว่า 2 ชั่วโมง จนในที่สุดประธานฯ ได้สั่งปิดการพิจารณา และที่ประชุมจะมีการพิจารณา หารือในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ข้อมูลที่ได้มาในวันนี้ก็ถือว่ามีน้ำหนักพอสมควร.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์