เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการ Hot Topic กับนายธีรัตถ์ รัตนเสวี ทางสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี
โดยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงโครงการต่างๆ ของรัฐบาลตลอด 1 ปีไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต บ้านหลังแรก รถคันแรก โอท็อป รวมทั้งโครงการจำนำข้าวว่า การรับจำนำข้าว ชาวนาได้เต็ม แต่การประกันคือเอาเงินไปให้พ่อค้า หากใครทุจริตฟ้องเลย เอาผิดให้ถึงที่สุด ซึ่งเราต้องการยกระดับการเป็นอยู่ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ยกแค่หัว แต่ชาวนาชาวไร่ เกษตรกร คนยากจนนั้นเป็นส่วนใหญ่ เราต้องยกพวกเขาให้ดีขึ้น
ซึ่งตนพอบอกได้ว่าคนไหนประวัติเป็นอย่างไร แล้วนายกฯจะเป็นคนเลือก เป็นคนตัดสินใจสุดท้ายว่าจะเลือกใคร ตอนแรกตนคาดหมายว่านายกฯคงทำงานได้ แต่ปรากฏว่าทำงานได้ดีกว่ามากกว่าที่คิด นายกฯทำงานบริหารองค์กรมาตั้งแต่เรียนจบ วันนี้นายกฯรู้จักคนมากขึ้น รู้จักกฎกติกาการเมืองมากขึ้น วันนี้ นายกฯมีภาวะผู้นำในตัว ซึ่งมาปรึกษาอยู่บ้างเพราะในฐานะครอบครัวเดียวกัน เป็นปกติ แต่การบริหาร เป็นสิ่งที่นายกฯมีอิสระของท่านเอง ซึ่งทำได้ดีมากๆ อย่างไรก็ตาม นายกฯมีงานนอกสภามากทั้งสังคม ต่างประเทศ ส.ส. ดังนั้น จึงไม่สามารถไปงานสภาได้ แต่ขณะเดียวกัน งานต่างๆ ถูกแบ่งให้รองนายกฯ และรัฐมนตรีดูแลได้ชัดเจน
"แต่ผมไม่ใช่นักการเมืองวันนี้ ผมจึงพูดไม่ได้ แต่เจอกันคุยกัน ส่วนสุขภาพยังแข็งแรงดี เขาบอกผมเป็นมะเร็ง แต่ผมเป็นมาเล็ง คือเอาอะไรมาเสิร์ฟ ผมเล็งกินหมด ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าประเทศทำงานยาก เพราะรัฐธรรมนูญที่ทำให้ทำงานยาก เพราะมันจ้องล้มทุกขั้นตอน ส่วนราชการก็ซื้อขายตำแหน่ง แต่มันต้องใช้เวลาเปลี่ยน มันยากมากสมัยนี้ ทำงานได้ยากกว่าสมัยผมมาก สมัยผมปี 2540 เป็นรธน.ที่รัฐบาลมีอำนาจ แต่รัฐธรรมนูญนี้ มีแต่กับระเบิดตลอดทาง หากบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยจริงๆ บ้านเมืองเราจะไปได้ ทั้งนี้ มีคนบอกผมสมัยเป็นนายกฯ ว่าตราบใดที่สิบล้อยังกินยาบ้า ปฏิวัติก็ไม่พ้นจากประเทศไทย เค้ากำลังบอกผมว่าสิ่งบ้าๆ มันยังมีอยู่ในประเทศไทย ไม่คุ้ม หากคิดจะปฏิวัติวันนี้ ไม่คุ้มกับคนทำปฏิวัติ ไม่คุ้มกับคนสั่งปฏิวัติ ไม่คุ้มกับคนถูกปฏิวัติ และไม่คุ้มกับประชาชนเลย หากอยากปฏิวัติก็ปฏิวัติ"