วันนี้ (22ส.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)
เปิดเผยว่า ใน 1-2 สัปดาห์นี้ กบอ. จะเปิดโอกาสให้กับบริษัทที่เข้ามายื่นข้อเสนอกรอบแนวคิด เพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ภายใต้งบประมาณ 3 แสนล้านบาท ซึ่งมีจำนวน 359 บริษัท ไปศึกษาดูงานในพื้นที่จริง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือจากเชียงใหม่ ถึง กรุงเทพ ฯ รวมถึงเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลทางวิชาการ เกี่ยวกับเรื่องน้ำทั้งหมด ที่มีการทำทีโออาร์ไว้กับต่างประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อความโปร่งใส และขจัดข้อกังขาที่ว่าได้รับข้อมูลไม่เท่าเทียมกัน
ทั้งนี้คาดว่าการลงพื้นที่ดังกล่าวจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน
โดยให้บริษัทที่สนใจ แจ้งความประสงค์ มาได้ที่ นายสุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล รักษาการเลขาธิการสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้ บริษัทจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ขอประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าจะลาออกจากจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอกรอบแนวคิด ฯ ดังกล่าว
หลังจากที่ได้กลุ่มบริษัทสำหรับดำเนินการตามทีโออาร์แล้ว ซึ่งตนจะไม่มีส่วนได้เสียกับการให้คะแนน เพื่อคัดเลือกบริษัท เนื่องจากขณะนี้ถูกกล่าวหามามากพอแล้ว และหลังจากนี้จะเป็นเฉพาะผู้ตรวจสอบการดำเนินการตามนโยบาย ในฐานะประธานกบอ. และผู้ลงชื่อ อนุมัติงบประมาณตามตำแหน่งรัฐนมตรีว่าการกระทรวงวิทย์ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการขนาดใหญ่ ที่ต้องมีการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
เช่น การสร้างเขื่อนต่าง ๆ นั้น ภาครัฐจะเป็นผู้ดำเนินการดังกล่าวเอง ภายใต้ความรับผิดชอบของอนุกรรมการด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) และปลัดกระทรวงวิทย์เป็นผู้กำกับดูแล และมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินงาน เพราะถ้าปล่อยให้เอกชนทำเอง คาดว่าจะต้องใช้เวลานาน รวมทั้งการเวนคืนที่ดินต้องอยู่ภายใต้การดำเนินการของรัฐ ซึ่งจะทำให้โครงการก่อสร้างอย่างเช่นเขื่อน ใช้เวลาสร้างเสร็จใน 3 ปี
สำหรับการเตรียมแถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับความคืบหน้าในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ส.ค.นี้
ที่ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว นายปลอดประสพ กล่าวว่า จะมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สอบถามข้อข้องใจ เกี่ยวกับน้ำท่วม และมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ที่ดำเนินงานไปแล้วภายใต้งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท รวมถึงมีการออกบูธแสดงผลงานเกี่ยวกับเรื่องน้ำของแต่ละกระทรวง และการสัมมนาทางวิชาการอีกด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า ปีนี้น้ำไม่ท่วมแน่นอน และสถานการณ์น้ำในปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่สามารถควบคุมและบริหารจัดการได้
อย่างไรก็ดี ได้ย้ำถึงการเตือนประชาชนในบริเวณภาคตะวันตก โดยเฉพาะเจ้าของแพและนักท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยจนถึงแควใหญ่ ที่จะมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ เพิ่มขึ้นในปริมาณ 40ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งแม้จะไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม แต่อาจเกิดอันตรายจากน้ำที่ไหลแรงมากได้