วานนี้ ( 21 ส.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)
ได้ให้นายทหารกรมพระธรรมนูญดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความกลุ่มคนเสื้อแดงในข้อหาหมิ่นประมาทกรณีทำให้กองทัพบกเสียหาย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้แนวทางจากกรณีนี้ว่า ไม่เฉพาะตัวบุคคล กลุ่มบุคคล หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่นำเสนอข้อมูลผ่านทางสื่อที่แต่งแต้มสีสันต์ ใส่ข้อมูลเพิ่มเติม ใส่ความคิดเห็นบิดเบือน จนทำสังคมเกิดความเข้าใจผิดในการปฏิบัติงานของกองทัพหรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)
“ผบ.ทบ.จะ ให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องต่างๆ และตรวจสอบในกระบวนการของการทำงานว่าส่งผลต่อภาพลักษณ์กองทัพบกหรือไม่ หากส่งผลและทำให้เกิดความเสียหายก็จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เช่นกัน” พ.อ.สรรเสริญ กล่าวและว่า กลไกของกองทัพบกสำนักงานพระธรรมนูญทหารบกมีหน้าที่ในการติดตามข้อมูลข่าวสารร่วมกับสำนักงานเลขานุการกองทัพบก โดยจะติดตามข่าวสารทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสังคม หากข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏทำให้องค์กรเสียหาย อาทิ ผู้บังคับหน่วย ผู้นำที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรในทางเสียหาย เขามีหน้าที่ต้องนำเรียนพิจารณาผ่านการกลั่นกรองผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้ให้สัมภาษณ์ในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร เมื่อหน่วยเสนอขึ้นมาก็จำเป็นต้องอนุมัติเพื่อดำเนินการ จะเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ
โฆษก ทบ.กล่าวต่อว่า กองทัพบกไม่ได้ทำงานตามความรู้สึก ไม่ได้ทำงานตามความคิดเห็น แต่ทำงานตามระบบ
ดังนั้นที่บอกว่าช้าแก้เกี้ยวคงไม่ใช่ เป็นไปตามขั้นตอน ไม่เหมือนสื่อบางสื่อที่คิดแล้วเขียนเลย คิดปุ๊บแล้วก็นำเสนอหรืออยากให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไรก็เขียนไป กองทัพบกไม่ได้ทำงานตามความรู้สึก แต่ทำงานโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง