เสรีพิศุทธ์ ลั่น! ไม่แก้แค้นย้ายล้างบาง ต้องทำงานเพื่อ ปชช.

"เสรีพิศุทธ์" ลั่น! ไม่มีการแก้แค้นย้ายล้างบางแต่ต้องทำงานเพื่อ ปชช.


รักษาการ ผบ.ตร.เรียกประชุมนายตำรวจตั้งแต่ระดับรอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้บัญชาการประจำ ตร.และผู้บังคับการประจำ ตร.ย้ำ ต้องช่วยแก้ภาพพจน์ตำรวจที่กำลังตกต่ำ อย่าโทษคนอื่น แต่ให้โทษตัวเอง

ระบุ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญ ไม่มีการแก้แค้น แต่งานแรกต้องคลี่คลายคดีบึ้ม 9 จุด ระเบิดที่เดลินิวส์ก่อน เผย ยังไม่คิดย้าย ผบช.น.

เมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 6 ก.พ.


ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 ชั้น 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.ผู้บัญชาการประจำ ผู้บังคับการประจำที่ขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมดเข้าประชุม เพื่อมอบนโยบายการทำงาน หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการ ผบ.ตร.

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ครบ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทางรัฐบาลได้รณรงค์ให้ทำความดี ตำรวจก็ควรทำความดีเพื่อประชาชนถวายเป็นพระราชกุศล ร่วมมือกันปฏิบัติสิ่งที่ดีงาม ถ้าเราทำความดี ก็ไม่มีใครทำอะไรได้

ขณะนี้ ภาพพจน์ตำรวจตกต่ำ อย่าไปโทษคนอื่น แต่อยู่ที่ตัวเรา ตนเองทำงานมามาก สื่อบางฉบับก็ยังบอกว่า สร้างภาพ จึงขอระบายบ้างว่า ที่ผ่านมา ตนเองถูกสกัดจากทุกทาง ตั้งแต่เป็นจเรตำรวจ หน้าที่การทำงานเพื่อองค์กร แต่องค์กรไม่เคยตอบสนอง

ตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมา เคยทำรายงานถึงรองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยได้รับความร่วมมือ อีกทั้งการทำงาน เสนออะไรไป ก็ไม่เคยได้รับความร่วมมือจากผู้บังคับบัญชา เป็นจเรเสนอผลงานก็ไม่เคยได้รับการอนุมัติ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว


"ถ้าผมทำอะไรผิดพลาดไป คงจะเจ็บตัวไปแล้ว ที่ผ่านมา ได้ฟ้องร้องคดีกับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ไปเพียงแค่ 3 คดี แต่ถ้า พล.ต.อ.โกวิท ลาออกจะถอนฟ้องให้ ขณะนี้ได้มาดำรงตำแหน่งรักษาการ ผมยังไม่ขอมอบนโยบายที่สำคัญ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ใครรับผิดชอบอะไรก็ทำงานส่วนนั้นไปก่อน

แต่ในส่วนฝ่ายป้องกันและปราบปรามซึ่งมีภาระเยอะจะมาว่ากันทีหลัง ไม่ใช่ว่าจะใส่เกียร์ 1 เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ภาพพจน์ของตำรวจต้องช่วยกันทำให้ดีให้ได้ ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ไม่กดขี่ข่มเหงประชาชน"

รักษาการ ผบ.ตร.ยังมอบนโยบายในการทำงานของตำรวจ โดยพูดถึงการทำงานของตำรวจว่า ยังคงเห็นตำรวจบางคนมาทำงาน 09.00 น.และในเวลา 15.30 น.ก็เก็บกระเป๋ากลับบ้านแล้ว ซึ่งดูเป็นภาพที่ไม่ดี จึงขอให้ผู้บังคับบัญชานำไปแก้ไขตรวจสอบ

รวมทั้งเรื่องการทำความเคารพ มีบางครั้งที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ทำความเคารพผู้บังคับบัญชา ซึ่งดูแล้ว ทำให้ตำรวจไม่ค่อยมีวินัย ก็ขอให้เข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้

และเรื่องความสะอาดความเรียบร้อยในแต่ละสำนักงาน ให้ดูแลเน้นการประหยัดทรัพยากร และเรื่องสวัสดิการ ขอให้ฝ่ายสวัสดิการไปดูแลตำรวจ เพราะตำรวจไม่ค่อยได้รับการดูแลในด้านสวัสดิการ ไม่ค่อยสนใจผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้สั่งให้ผู้บังคับการกองสวัสดิการ ไปดูเรื่องบ้านพักของตำรวจให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ รวมทั้งเรื่องรถรับส่งข้าราชการตำรวจ เพื่อจะได้ให้ตำรวจมาทำงานตรงตามเวลา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว


"ตั้งแต่ทำงานมา ผมไม่ค่อยได้พบปะพูดคุยกับรอง ผบ.ตร.ฝ่ายต่างๆ เท่าไร จึงขอเชิญรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วยทุกฝ่ายมารับประทานอาหารร่วมกัน เพื่อนำภารกิจมาพูดคุยปรึกษาปัญหา โดยจะมีการจัดประชุมใหญ่เดือนละครั้ง สำหรับหน่วยงานที่ขึ้นตรง"

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ให้นโยบายกับข้าราชการตำรวจที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้อีกว่า การทำงานในขณะนี้ จะเน้นการแก้ไขเรื่องระเบิด 9 จุดใน กทม.ระเบิดที่ นสพ.ที่เดลินิวส์ การวางเพลิง และอาชญากรรม พวกมาเฟีย ยาเสพติด และพนันฟุตบอล

โดยตำรวจต้องเน้นการบริการเพื่อประชาชน ซึ่งที่ตนได้ไปพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้นั้น ทางนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่ตนได้พูดผ่านสื่อไป นายกรัฐมนตรีรับฟังอยู่ และถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ที่ต้องทำ พร้อมกับกำชับให้ดำเนินการให้บรรลุผล

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายอีกมากที่จะขอให้ไปปฏิบัติ แต่ต้องค่อยๆ ดำเนินการไป ส่วนของวันพรุ่งนี้ ก็จะพูดคุยเรื่องระเบิด กับพนักงานสอบสวน ในเวลา 14.00 น.ที่สำนักงาน ว่า จะดำเนินการอย่างไร และต่อไปจะมีการคุยเรื่องวางเพลิง ปัญหาภาคใต้ และปัญหาอื่นๆ

"ขณะนี้ ขอให้สบายใจได้ ไม่มีการล้างแค้นเรื่องการทำงาน จะพิจารณากันด้วยเหตุผล ความรู้ ความสามารถ และประวัติการทำงาน ถ้าใครถูกย้าย ผมตอบปัญหาได้ ไม่ใช่ถูกย้ายโดยไม่มีเหตุผล ท่านผู้ช่วย ผบ.ตร.กับรอง ผบ.ตร.ก็สามารถเข้าพบผมได้ตลอดเวลา" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำ



ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า


การฟ้องร้อง พล.ต.อ.โกวิท 3 คดีนั้น ไม่ได้แค้นอะไรมากมาก เรื่องที่ฟ้องก็เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ถ้าหาก พล.ต.อ.โกวิท ลาออก ก็จะยอมถอนฟ้องตามที่พูด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการเข้าพบนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ ส่วนในเรื่องการปรับโครงสร้างตำรวจนั้น ก็น่าจะมีการปรับเปลี่ยนกันได้ ทุกคนได้รับมอบหมายก็ต้องทำตามหน้าที่ ส่วนสายงานด้านการปราบปราม ต้องมีการแบ่งหน้าที่กันใหม่

"ตำรวจที่ใส่เกียร์ว่าง ถ้าหากทำผิด ก็ต้องว่าไปตามผิด คงไม่มีการให้เวลา" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปรับย้าย พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.ด้วยหรือไม่นั้น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ลงลึกไปถึงขนาดนั้น เบื้องต้นคงปล่อยให้การทำงานดำเนินไปได้ด้วยดี ซึ่งตนได้จับตาดูหมดทุกกองบัญชาการ แต่กองบัญชาการที่อยู่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวง ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

โดย ผู้จัดการออนไลน์
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์