เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) จะเข้าพบเพื่อหารือการถอนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ และไม่เคยไปพูดคุยกับผู้เสนอญัตติทั้ง 4 ร่าง เพื่อให้ถอนเรื่องดังกล่าว มีแต่พูดว่าจะต้องมีการสานเสวนาก่อนเพื่อหาทางออก และค่อยไปหารือกับคนที่เกี่ยวข้องกับร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในพรรค นักข่าวถามตนว่าจะไปคุยกับพล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ หรือไม่ ตนก็ตอบว่า น่าจะมีการไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องการถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ไม่ใช่หน้าที่ของประธานสภาฯ ตนพูดมาตลอด ในความเห็นส่วนตัว ควรให้ยื้อ พ.ร.บ.ปรองดองฯออกไปก่อน
เมื่อถามว่า การพลิกบทบาทแบบนี้ เพราะได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้พลิกบทบาท และตนก็ย้ำมาตลอดเหมือนเดิมไม่ได้พูด ก็ไม่เข้าใจว่าสื่อเอาไปลงแบบนั้นได้อย่างไร
เมื่อถามต่อว่าหากมีการเดินหน้าพ.ร.บ.ปรองดองฯต่อไป จะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนทำตามหน้าที่ เมื่อมีผู้เสนอเรื่องเข้ามาก็บรรจุในวาระการประชุมเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจไปสั่งใครได้ อีกทั้งอำนาจในการถอน ก็เป็นอำนาจของที่ประชุม ต้องทำความเข้าใจกับสมาชิกก่อน เพื่อให้เขาเห็นด้วย แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องของประชาธิปไตย
“ผมทำในสิ่งที่ผมควรทำ และผมก็ได้ทำไปแล้ว และเรื่องการถอนพ.ร.บ.ปรองดองฯ ผมก็ไม่มีอำนาจเพียงแต่ทำหน้าที่ในฐานะประธานสภาฯดำเนินการประชุมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนคลิปเสียงที่ตนพูดว่า เกมร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในมือแล้วนั้นเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ที่เห็นด้วยกับตนในการลงมติวาระ 3 ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตยไม่มีใครสามารถบังคับใครได้