ก่อนอื่น
ต้องขอขอบพระคุณนาย "จับปานิมูตู ราวินจันดราน" ( Chappanimutu Ravichandran ) กรรมการแขกชาวมาเลเซีย ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นกรรมการ FIFA ตั้งแต่ปี 2002 กรรมการคนนี้ได้รับเกียรติให้ตัดสินฟุตบอลคู่ระหว่างสิงคโปร์ ไทย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
...ต้องตายภายใต้ฝ่าตีน....
ที่ต้องขอขอบพระคุณอย่างสูง
ก็เพราะสายตาของแกที่ให้จุดโทษในระหว่างการแข่งขันนั้นทำให้ไฟรักชาติและความรักศักดิ์ศรีเนื่องในความเป็นคนไทยนั้นมันพลุ่งพล่านอย่างถึงที่สุด
นอกจากนาย จับปานิมูตู แล้วก็ต้องขอบคุณเบียร์ ไทเกอร์ ขอบคุณ สิงคโปร์ที่โชว์ความมีสปิริตแบบน้อยที่สุดให้เราเห็นจนกระทั่งคนรอบข้างผมนี่ ถ้าได้ยินคำว่าสิงคโปร์เมื่อไหร่ ตาเป็นเขียวขึ้นมาทันที
ลึกๆ แล้วผมว่าฒิฬเรากับสิงคโปร์นั้นมีรอยร้าวฉานที่ให้อภัยกันไม่ได้ฒฝิฬ เพราะยุคนี้สิงคโปร์ขี่ไทยที่ใหญ่กว่าหลายร้อยเท่ากันจนมิดทีเดียว วันนี้ของเรากับสิงคโปร์จึงเป็นอะไรที่ไม่แตกต่างกับ สยามประเทศกับพม่าเมื่อครั้งเรายังรบกันด้วยดาบล้วนๆ
ในชีวิตประจำวัน
เราก็ตกเป็นทาสสิงคโปร์กันเกือบจะทุกนาที...ก็ลองนึกดูซิครับ ตื่นเช้ามาเปิดดู ไอทีวี คุณก็จะเห็นข่าวที่เกิดจากมุมมองของสิงคโปร์ซึ่งเป็นพ่อของไอทีวีอีกที ข่าวหลายๆ อย่างที่สร้างความเจ็บแค้นให้กับคนไทย แต่สร้างความหวังให้กับสิงคโปร์ได้ ก็มักจะเจอทางไอทีวีนี้แหล่ะครับ
ยังไม่นับชีวิตประจำวันของเรา...คุยโทรศัพท์ กรณีที่คุณใช้เอไอเอสอยู่ เราก็ตกเป็นทางของสิงคโปร์อีกแล้ว อันนี้ไม่ต้องไปพูดเรื่องความลับจะร่วมหรือเปล่านะครับ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ บรรดาคณะมนตรีความมั่นคงของชาติเราเขายกเลิกเบอร์ เอไอเอส กันหมด...ที่สำคัญการเงินและการงานของเราทั้งหมดทุกวันนี้ ก็ตกเป็นเครื่องไม้เครื่องมือของสิงคโปร์เสียจนเหี้ยน
เรื่องน้ำมันเอย ก๊าซเอย ทั้งๆ ที่เรามีบ่อขุดก๊าซแต่สุดท้าย สิงคโปร์ก็เป็นตัวกำหนดราคาน้ำมัน เรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องพูด ผู้ที่คุมเรื่องการนำเข้าส่งวออกอาหารก็ย่อมเป็นสิงคโปร์
เพราะฉะนั้นจะเห็น
ได้ชัดเลยว่าเกือบ 24 ชั่วโมงใน 1 วันนั้นเราตกเป็นทาสสิงคโปร์เสียค่อนคน
ถึงอีแบบนี้แล้ว สิงคโปร์ก็ยังไม่ยอมให้เราภูมิใจในเรื่องกระจอกงอกง่อยอย่างฟุตบอลเสียอีก มันยังจะปล้นชัยชนะของเรากันแบบหน้าด้านๆ เลยอย่างที่เห็น
ความสามัคคีของคนในชาติก็เกิดขึ้นมาอย่างที่ผมเองไม่เคยเจอมานานแล้ว หลายคนถึงกับนัดแนะกันว่าจะใส่เสื้อเหลืองไปหลอนมันให้ถึงในสนาม หลายคนพร้อมจะต้อนรับมันให้สมกับประวัติศาสตร์ของไทยที่บอกว่า ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด นั่นคือให้มันรู้เสียบ้างว่าคนไทยใจถึง!!
หลายคนจะเตรียมอุปกรณ์การเชียร์ไปชนิดที่ฟังแล้วต้องขนลุกขนพองขึ้นมา ก็อยากจะบอกว่างานนี้ก็ไประบายเสียให้พอ ความหงุดหงิดที่รู้สึกว่าเราเป็นทาสสิงคโปร์อย่างช่วยไม่ได้ก็จะได้ไประบายออกกันคราวนี้
ที่สำคัญจะเป็นเพราะ
ผีห่าซาตานตนไหนก็ไม่ทราบไปจ้างให้สื่อมวลชนต่างประเทศเขียนโจมตีเศรษฐกิจพอเพียง โดยเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจของทักษิณโณมิกส์ของไอ้เหลี่ยม ซึ่งต่อมาผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น คมช. เอย ครม เอย หรือ แม้กระทั่งท่านองคมนตรีเอยต้องออกมาตอบโต้กับไอ้คนไทยใจชั่วคนนี้แบบจริงๆ จังๆ เสียที
ข่าวดังกล่าวนี้ออกมาในวันเดียวกับวันที่ฟุตบอลสิงคโปร์โกงไทยกันชนิดหน้าด้านสุดขีด...งานนี้เลยยิ่งเป็นแรงบวก เพราะประเด็นที่ว่าฝรั่งมันไม่ได้นึกเขียนเอง แต่มีคนไปจ้างเขียน และคนที่จ้างเขียนก็คือเจ้าของทฤษฏีทักษิโณมิกส์และผู้ที่เกี่ยวข้องของมันนี่เอง
ใครไม่เจ็บใจก็ช่างเขาเถิด แต่งานนี้ในฐานะคนไทยรักพ่อหลวง...เลือดมันฉีดขึ้นหน้า
ยิ่งรู้ว่าเราต้องตกเป็นทาสสิงคโปร์ส่วนใหญ่ก็เพราะไอ้เหลี่ยมจัดผู้นี้ไปเปิดบ้านให้เขามาปล้น แรงแค้นมันเลยเดือดขึ้นเป็นสองเท่า
เพราะก่อนหน้านี้ทักษิณทำให้เราเห็นแล้วว่า
ไม่เคยเชื่อในแนวทางพระราชดำริเลยแม้แต่ครั้งเดียว โครงการหลวงจำนวนมากที่เกิดขึ้นถูกทำลายโดยการเจรจา FTA ชนิดไม่มีชิ้นดี เพียงเพื่อให้พรรคพวกของเขาได้รับผลประโยชน์ในเรื่องพิกัดดาวเทียม เรื่องอินเทอร์เน็ตดาวเทียมไปจนกระทั่งเรื่องของอะไหล่รถยนต์ซึ่งผลประโยชน์ไปตกกับคนไม่กี่คน ขณะที่เกษตรกรในโครงการหลวงนั้นค่อยๆ ตายจากไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีทางที่จะสู้สินค้าเกษตรจากประเทศข้างนอกได้
ขณะที่เศรษฐกิจพอเพียงเน้นให้เราพึ่งพาตัวเองเป็นหลัก แต่ที่ผ่านมาพรรคไทยรักไทยเน้นให้พึ่งพาพรรค พึ่งพานายทักษิณ และพึ่งพาการแจก ทุกคนเป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นหนี้บริษัทเงินกู้ และเป็นหนี้แบงค์
และทุกคนที่อยู่ใต้ระบอบทักษิโณมิกส์ เป็นง่อย!!
นั่นคือการกระทำของรัฐบาลในชุดที่ผ่านมาที่สวนทางกับแนวพระราชดำริทุกอย่าง เพราะฉะนั้นการที่ คมช และ ท่านองคมนตรี "นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย" ท่านออกมาแฉว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเป็นระบบต่อองค์พ่อหลวงของเรานี้ คือการแสดงตัวอย่างชนิดเปลือยล่อนจ้อนของอดีตนายกฯ ผู้นี้ว่าที่ผ่านมา เขาคิดอะไรอยู่...ไม่ใช่เรื่องแค่จะโกงจะกินกันแค่ไหน แต่ไอ้คนผู้นี้คิดในสิ่งที่ไกลเกินไปกว่านั้นเยอะ
คงไม่ต้องบอกหรอกครับว่าเป็นอะไร...ถ้าคุณรักพ่อหลวงเหมือนเสื้อสีเหลืองที่เราใส่ๆ กัน คุณต้องรู้ว่ามันผู้นี้คิดอะไรอยู่
ถึงตอนนี้ในใจของคนไทยจำนวนมาก
จับเอาทั้งสิงคโปร์และทักษิณไปรวมอยู่ด้วยกันอย่างแยกไม่ออก คนไทยจำนวนมากแค้นสิงคโปร์พอๆ กับที่แค้นทักษิณ แค้นไอทีวี และแค้นเอไอเอส มีคนถามผมว่าจะใช้เพลงอะไรดีสำหรับงานนี้...ตอนแรกผมกะว่าจะยกเพลง ขอบพระคุณ ของบอย โกสิยพงษ์ ขึ้นมาแนะนำ เพราะมันช่วยให้รัฐบาลไทยตื่น คนไทยตื่น แต่ไปๆ มาๆ กลับนึกถึงกลอนชุดหนึ่งที่เขียนขึ้นโดยกวีชาวบ้านที่ชื่อว่า "สมาน เกาะเหล็ก"...เพราะอีกไม่กี่วันจะครบรอบวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่พวกเราชุมนุมใหญ่ครั้งแรก
บังหมานนั้นเดี๋ยวนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าเขาเป็นชาวบ้านที่เกลียดการขายชาติอย่างแรงกล้า มีความรู้สึกเกียดชังคนโกงภาษี คนโกหก และคนขายชาติ ทุกอย่างทำให้เขาต้องเขียนกลอนฉบับ มหากาฬ อันนี้มาในชื่อว่า...มึงต้องตายภายใต้ฝ่าตีนกู
กลอนชุดนี้
เหมาะจะเอาไปท่องและเชียร์ก่อนฟุตบอล ไทย-สิงคโปร์จะเริ่มต้นในวันอาทิตย์นี้ยิ่งนัก
...
มึงเป็นใครมาจากไหนไอ้ทักษิณ
ใยถึงเอาแผ่นดินกูไปขาย
มึงย่ำยีบ้านเมืองกูวอดวาย
ไอ้ชิบหายต้องตายภายใต้ฝ่าตีนกู
ชื่อทักษิณแปลว่าถิ่นคนใต้
แต่จัญไรดันไปอยู่ทางเหนือ
ทำจัญไรทำคนใต้ตายเป็นเบือ
ไอ้ขี้เกลือต้องตายภายใต้ฝ่าตีนกู
มึงร่ำรวยมาจากไหนกูไม่สน
สัปดนด่าคนว่าอิจฉา
ถ้าดีจริงไม่มีใครนินทา
ไอ้ชาติหมาต้องตายภายใต้ฝ่าตีนกู
นโยบายที่ดีมีบ้างไหม
ยกตัวอย่างมากให้ซักข้อซิ
ที่แล้วมามีแต่ที่ไม่ดี
ไอ้อัปปรีย์ต้องตายภายใต้ฝ่าตีนกู
ทักษิณทำดีมีเงินกู้
ประชาชนไม่รู้ไปกู้หนี้
ทักษิณสุขเกษมและเปรมปรีดิ์
ประชาชนเป็นหนี้ท่านดีใจ
ทั้งเงินกู้หมู่บ้านและออมสิน
อีกทั้งหวยบนดินคนเลื่อมใส
รีบเดินหน้าเรียงรายกันเข้าไป
เพื่อเป็นทาสรับใช้หนี้สินเอย
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ