31 พ.ค.55 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันที่จะคัดค้านร่าง พรบ. ปรองดอง การเคลื่อนไหวของประชาชนนอกสภา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภา เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตัดสินใจว่าควรถอนเรื่องนี้ออกไปจากวาระการประชุมสภา เพราะทำให้เกิดความแตกแยกจึงควรจะเอาเรื่องที่เป็นปัญหาออกไป นายกฯจะอยู่เหนือปัญหาไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง และนโยบายการสร้างความปรองดอง การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล และกฎหมายฉบับนี้มีปัญหาเรื่องการเงิน ดังนั้นรัฐบาลต้องแสดงท่าทีให้ชัดว่าพร้อมที่จะคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือกรณีมีการปรับทางอาญาอื่น ๆหรือไม่ และที่สำคัญกฎหมายนี้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล จะพยายามใช้วิธีเอาพรรคการเมืองมาเสนอแล้วไม่ต้องรับผิดชอบมันไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิก็ไม่ร่วมประชุมทั้งที่เป็นผู้เสนอ พรบ.ปรองดอง
นายอภิสิทธิ์ กล่ววว่า ตัวการต้นเรื่องก็ไม่อยู่ ไม่กล้าที่จะมาเผชิญเหตุและผล และการที่พยายามใช้อำนาจของประธานสภาปิดไม่ให้คนพูด แล้วสั่งคนลงมติเลยโดยไม่ต้องชี้แจง ซึ่งไม่ใช่กระบวนการของสภาที่ถูกต้อง จะเห็นได้ว่าเมื่อนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองขึ้นมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ใช้เหตุผล การประชุมสภาก็ดำเนินไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยพยายามจะบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสภา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น และพวกตนก็ไม่ได้ไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายเหมือนกับที่เขาทำในช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน แล้วยังมาขอนิรโทษกรรมในขณะนี้อีก ทั้งนี้ภาพที่ออกมาไม่มีใครอยากเห็น แต่ภาพลักษณ์ของพรรคก็ถูกกระทบบ้าง แต่ถ้าเราหยุดยั้งกฎหมายที่ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติได้ ตนคิดว่าเราก็ต้องยอมรับตรงนั้น
เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลยังยืนยันเหมือนเดิมพรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีอย่างไร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคก็จะเรียกร้องว่าการประชุมประธานคณะกรรมาธิการสามัญจะต้องโปร่งใส ไม่ใช่เข้าไปถึงแล้วบอกว่าให้ลงมติว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่เป็นการเงิน แล้วมาสรุปว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน ดังนั้นนายกฯจึงไม่ต้องลงนาม แต่พอวันข้างหน้าก็ไปจ่ายเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต่อว่าการที่ไม่ให้นายกรัฐมนตรีลงนาม เพราะต้องการกันนายกรัฐมนตรีออกไปใช่หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงทำนองนั้น เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนยังเจอแขกต่างประเทศที่มาประชุมเวิร์ลอีคอร์นอมิคฟอร์รั่มก็ยังสอบถามพอทราบว่า ในสภานายกรัฐมนตรีก็ไม่มาประชุม ตนถึงกับอึ้งเมื่อเขาถามว่ามีระบบที่นายกรัฐมนตรีอยู่เหนือรัฐสภาด้วยหรือ
เมื่อถามว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องเปลี่ยนท่าทีถ้ายังใช้ท่าทีแบบเดิมก็ต้องเจอปัญหาแบบเดิมแน่นอน ซึ่งขณะนี้ก็มีการเคลื่อนไหวถอดถอนนายสมศักดิ์ ออกจากประธานสภากันอยู่