นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางมาเป็นประธานในพิธีปิดและส่งมอบงานโครงการขุดลอกคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งดำเนินการโดยกองทัพบก ณ คลองสนามชัย วัดบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่30พฤษภาคมว่า แผนรับมือน้ำท่วมในภาพรวมแบ่งเป็น 3 ช่วง ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยในวันนี้ต้นน้ำและกลางน้ำอาจจะยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากที่ตนไปตรวจสอบดู อาจจะติดในเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องใช้เวลา ส่วนพื้นที่กลางน้ำซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้างซ่อมแซมประตูระบายน้ำ แต่จากการสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบจะเร่งรัดทำงานให้ทัน ซึ่งเราจะลงพื้นที่ไปตรวจในเดือนมิถุนายนทั้งหมด อย่างไรก็ตามจะมีการสั่งการให้รัฐมนตรีไปตรวจเป็นรายจังหวัด ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและรายงาน ซึ่งขณะนี้ภาพรวมมีความคืบหน้าไปแล้ว 40-50 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของพื้นที่ปลายน้ำมีความคืบหน้าค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นการขุดลอกคูคลองไม่ได้มีการก่อสร้างอื่นๆ โดยเฉพาะกองทัพ งาน 80 เปอร์เซ็นต์เสร็จแล้ว ซึ่งเหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ผู้ว่าฯ กทม.รายงาน ซึ่งโดยภาพรวมก็ใกล้เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ขณะนี้เราจะเตรียมบูรณการข้อมูลทั้งหมด โดยเฉพาะในเรื่องการตั้งสมมุติฐานทั้งหมดในการพยากรณ์โดยเฉพาะเรื่องน้ำด้วย
เมื่อถามว่า ปัญหาการจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายบ้านเรือนจากน้ำท่วมที่มีการประท้วงจากประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
ตนจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในการลงไปดูปัญหาของประชาชนอย่างใกล้ชิด ต้องเรียนว่าบางส่วนถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลจัดให้ก็คงจะจบแล้ว แต่ปัญหาที่จังหวัดปทุมธานีก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้าไปสำรวจความเสียหาย บางครั้งความคาดหวังในเงื่อนไขของรัฐบาลจะไม่ตรงกัน ก็ต้องมีคนมาเป็นตัวกลางเข้าไปดูว่าปัญหาจริงๆ นั้นเกิดขึ้นเท่าไหน ต้องเรียนว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงิน หรือไม่ดูแลประชาชน บางครั้งปัญหาต่างๆ จะต้องเป็นปัญหาพื้นที่ที่จะนำส่งขึ้นมา เพราะจากที่เราดูรายงานและติดตามดูทั้งหมดก็ไม่เห็นปัญหาตรงนี้ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจ ก็ได้มีการกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่จะต้องลงไปดูความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิด ต้องให้แน่ใจว่าเยียวยาได้ทั่วถึงและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นบ้านบางหลังจ่ายเงินให้แค่ 200 บาท แต่บางหลังจ่ายเงินให้ 20,000 บาท เป็นสิ่งผิดปกติหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จริงๆ ทุกอย่างตรวจสอบได้ ลงไปตรวจสอบในพื้นที่จริงว่าเสียหาย 200 หรือ 20,000 กันแน่ เราถึงมีคณะกรรมการกลาง ที่จะเป็นผู้ตีราคาความเสียหายว่า มูลค่าความเสียหายจริงๆ ที่เกิดเท่าไร ซึ่งจะเป็นคำตอบให้ความกระจ่างต่อประชาชน