วันนี้ ( 16 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ระบุจะฟ้องร้องดีเอสไอกรณีสั่งไม่ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในคดีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงจากการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ว่า ยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายสุเทพ โดยส่วนตัวมีความเคารพนายสุเทพเพราะเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้บริหารพรรคและเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา ดังนั้น ตนไม่ขอก้าวล่วงความเห็นของนายสุเทพ แต่ยืนยันดีเอสไอทำงานในรูปคณะพนักงานสอบสวนและทำหน้าที่โดยสุจริต
เมื่อถามว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองจะถูกสั่งไม่ฟ้องจำนวนมาก นายธาริต กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามพยานหลักฐาน
ที่สำคัญสิ่งที่ดีเอสไอดำเนินการเป็นเพียงความเห็น แต่ผู้ออกคำสั่งแท้จริงคือพนักงานอัยการ เช่น กรณีของนายจตุพร ดีเอสไอทำความเห็นเพียงควรสั่งไม่ฟ้อง แต่คนจะออกคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคือพนักงานอัยการ ขอยืนยันกระบวนการที่ทำมีการตรวจสอบและถ่วงดุล ส่วนกรณีที่ดีเอสไอเคยแถลงว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแน่นอนนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้นการทำคดีที่มีมูลในการดำเนินคดี ส่วนผิด ถูกอยู่ที่หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น
เมื่อถามว่าขณะนี้ดีเอสไอถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดความน่าเชื่อถือ ถูกการเมืองแทรกแซงอย่างหนัก
นายธาริต กล่าวว่า ตนไม่ลำบากใจ คิดว่าคงต้องขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอว่าทำงานตามกฎหมายและถูกตรวจสอบถ่วงดุลโดยพนักงานอัยการและศาล ไม่ใช้ทำงานตามลำพัง คดีที่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองมีพนักงานอัยการร่วมสอบทุกคดี ที่สำคัญคดีเหล่านี้เกิดจากความขัดแย้งของคนในชาติ 2 กลุ่ม ใหญ่ไม่ว่าสั่งคดีไปทางไหน ย่อมมีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจแน่นอน