วันที่ 10 พ.ค. ที่กองบัญชาการกองพัน 907 บ้านซูมีหลาน เขตจังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
พล.ต.นะคำมวย ผู้นำองค์กรเคเคโอ และผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยงโกทูบอร์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพม่า ไทย และต่างประเทศที่มาทำข่าวกันเป็นจำนวนมากว่า ที่ประชุมกองกำลังต่างๆ มีมติที่จะไม่มอบตัวตนต่อฝ่ายไทยเพราะไม่มีความผิดใดใด แต่หากมีหลักฐานที่ชัดเจนปราศจากข้อกังขา ตนก็ยินดีเข้ามอบตัวต่อทางการพม่าเท่านั้น เพราะพม่ามีกฎหมายรองรับกับประชาชนของพม่าอยู่แล้ว
ส่วนรายได้ที่มีผู้คนสงสัยว่ามาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่นั้น ผู้นำเคเคโอแถลงตอบโต้ว่า
ทางเคเคโอหรือดีเคบีเอ มีรายได้จากการเก็บภาษีข้าวโพดและพืชไร่ที่คนไทยมาปลูกในพื้นที่ มีการเปิดสัมปทานเหมืองแร่เหล็ก สังกะสี โดยมีคนไทยเข้าประมูล การจำหน่ายไม้ต่างๆ และยังมีรายได้จากการขนสินค้าภายในประเทศอีกนับล้านบาท ซึ่งได้นำรายได้บางส่วนมาพัฒนาพื้นที่ของตนให้เจริญ ทั้งจัดสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และวัด เป็นต้น
“ส่วนการที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ฝ่ายไทย ส่งหนังสือขอให้ ปปส.ฝ่ายพม่าจับกุมผมนั้น ขอดำเนินการให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และไปจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลตัดสินแล้วว่าผิดจะดีกว่า ไม่ต้องมุ่งที่จะมาจับผม ส่วนใครมีส่วนร่วมต่อขบวนการค้ายาเสพติดชายแดนนั้นกลุ่มผมไม่ทราบ เนื่องจากชายแดนมีระยะพื้นที่ติดต่อกันยาวมาก” พล.ต.นะคำมวย กล่าว
พล.ต.นะคำมวย กล่าวอีกว่า เป็นการตั้งข้อสังเกตได้ว่าการออกหมายจับตน ทำไมถึงมาจับกุมในปีนี้
ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วกว่า 10 ปี เชื่อมีคนพยายามทำให้ไทย-พม่าเกิดความขัดแย้งกัน โดยเอาตนเป็นเหยื่อทางการเมืองและยาเสพติด กับผลประโยชน์ตามแนวชายแดนที่กำลังมีการค้าการลงทุนจำนวนมากระหว่างไทยกับพม่าในเขตอิทธิพลของตน