สุรยุทธ์เตรียมขยายพื้นที่ IMT-GT คลุม 14 จว.ใต้

ปัตตานี - "นายกฯ"เผยเตรียมขยายพื้นที่ฝ่ายไทยตามกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย IMT-GT จาก 8 จังหวัดเป็น 14 จังหวัดครอบคลุมทั้งภาคใต้ โดยจะหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในรายละเอียดเร็วๆนี้


ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี พล.อสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม


"พบปะพี่น้องประชาชน และผู้ปฎิบัติงานตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของประชาชนระดับตำบลจังหวัดชายแดนภาคใต้" โดยมีผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ข้าราชการในพื้นที่ 5 จ.ชายแดนภาคใต้กว่า 1,500 คนร่วมการประชุม นำโดย นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต., พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9,พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้ว่าราชการใน 5 จังหวัด และนายอารีย์ วงศ์อาระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานมอบรางวัลผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมให้แก่นายกูเฮง สาอิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่สร้างคุณงามความดีและดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ และได้กล่าวในที่ประชุมว่า

จากการที่ตนลงพื้นที่ จ.ปัตตานีครั้งก่อนและได้กล่าวขอโทษประชาชนในพื้นที่นั้น มีคนนำไปพูดว่าตนขอโทษแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ยังคงมีความรุนแรงเกิดขึ้นตลอด ตนขอชี้แจงว่าในการใช้แนวทางสมานฉันท์นั้น ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะไม่ดำเนินการตามกฎหมาย


ถ้าหากมีผู้กระทำผิดกฎหมายรัฐก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย


โดยจะยืนอยู่บนการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่กระทำความผิด ใช้อาวุธทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นหรือเสียชีวิต การที่จะดำเนินการกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย

รัฐบาลก็จะพยายามอย่างที่สุดที่จะทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้นมา สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้นั้นรัฐบาลได้หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ โดยการทำงานของรัฐบาลก็จะเป็นการทำงานในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่

"มีเรื่องสำคัญอยู่ 2 เรื่องที่จะต้องทำ เรื่องแรกก็คือการที่จะลดปัญหาความรุนแรงให้ได้ ซึ่งการที่จะสร้างสันติสุขขึ้นมาในในพื้นที่เป็นความสำคัญลำดับแรกที่จะต้องหาทางแก้ไข ในส่วนที่ 2 ซึ่งต้องกระทำควบคู่กันไป คือการที่จะวางรากฐานสร้างความเข้าใจในพื้นที่ โดยทำตามกระแสพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว ถ้าหากเกิดความเข้าใจแล้วความแตกแยกที่มีอยู่ก็จะลดลงไป"

นายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า สิ่งสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมุ่งมั่นให้เป็นไปให้ได้ คือการวางพื้นฐานทางการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับเยาวชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ด้วยการเพิ่มการศึกษาด้านศาสนาอิสลามในโรงเรียนของรัฐ และให้เพิ่มความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการคำนวณที่ทันสมัยในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและโรงเรียนปอเนาะ


สำหรับการส่งเสริมพัฒนาการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย รัฐบาลจะสนับสนุน


ทุ่มเทงบประมาณให้วิทยาลัยอิสลามศึกษา ซึ่งเป็นคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มีความเจริญก้าวหน้าในการเปิดสอนวิชาด้านศาสนาอิสลามเพื่อรองรับนักศึกษาในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็ได้ประสานไปยังมหาวิทยาลัยของรัฐทั่วประเทศให้มีการจัดสรรทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาชายแดนภาคใต้ โดยจะมีความชัดเจนเรื่องทุนต่างๆราวต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในส่วนของนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาด้านศาสนาอิสลามจากต่างประเทศ ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาหาแนวทางให้สามารถเข้ามาสอนหนังสือในโรงเรียนของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะขยายพื้นที่ตามกรอบความร่วมเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนิเซีย มาเลเซียและไทย (IMTGT)ในส่วนของฝ่ายไทย จากเดิมที่กำหนดเพียง 8 จังหวัดภาคใต้คือ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมกับอีก 3 จังหวัดคือ พัทลุง ตรังและนครศรีธรรมราช จะขยายพื้นที่เป็น 14 จังหวัดครอบคลุมทั้งภาคใต้


เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านอุตสาหกรรม การคมนาคมขนส่ง


เพื่อพัฒนาพื้นที่ภาคใต้และความร่วมมือของ 3ประเทศ ซึ่งความชัดเจนในรายละเอียดการขยายพื้นที่เป็น 14 จังหวัดภาคใต้ตามกรอบความร่วมเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนิเซีย มาเลเซียและไทย ตนจะร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในเร็วๆนี้

ด้านนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้เป็นตัวแทนกล่าวแสดงความขอบคุณในการลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ของนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ และกล่าวดุอาร์ขอพรให้การแก้ปัญหาความไม่สงบประสพความสำเร็จ

และกล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบรายวันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ตนขอยืนยันว่า คนในพื้นที่ไม่ได้มีความขัดแย้งในความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม "แม้ขณะนี้ยังคงมีเหตุร้ายรายวันอยู่ แต่ยืนยันได้ว่า ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งทางศาสนา มีเพียงผู้ก่อความไม่สงบเพียงไม่กี่คนที่พยายามโยงความแตกต่างทางเชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนามาสร้างความขัดแย้ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้หลงผิดตามนั้น "ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีกล่าว

ขอขอบคุณ


ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์