โดยพระรักเกียรติ ได้กล่าวถึงการเมืองภายในอดีตว่า เป็นวงจรอุบาทว์ ที่กลุ่มการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ ตอบแทนกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุน และเตรียมเงินทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ และการปฏิรูปการเมือง เมื่อปี 2540 ได้ให้อำนาจองค์กรอิสระในการตรวจสอบนักการเมืองมากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับนักการเมืองได้ จนเป็นเหตุให้ตนเอง ต้องถูกจำคุกในขณะนั้น แต่หลังจากนั้น ได้มีการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว นักการเมือง สามารถหลบหนีการจับกุมได้ และถูกจำคุกมีเพียงจำนวนน้อย จึงทำให้นักการเมือง ไม่กลัวเกรงการถูกดำเนินคดี และการเมืองในปัจจุบันเห็นว่า ฝ่ายการเมือง ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคพวกของตนเอง และแทรกแซงองค์กรอิสระที่ทำการตรวจสอบ ไม่ให้มีประสิทธิภาพ จึงเห็นว่า ควรมีการปฏิรูปประเทศให้ขจัดความทุจริตออกไปให้ได้ เพื่อพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน
พระรักเกียรติ จี้ ปฏิรูปประเทศ แก้ คอร์รัปชั่น
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง พระรักเกียรติ จี้ ปฏิรูปประเทศ แก้ คอร์รัปชั่น
"พระรักเกียรติ" ชี้ การเมืองในอดีตเป็นวงจรอุบาทว์ นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทนกลุ่มทุน ถูกลงโทษมีน้อย จี้ ปฏิรูปประเทศ
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และ พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันอภิปรายในหัวข้อ คอร์รัปชั่นกับปัญหาการเมืองไทย ให้แก่นักศึกษาตามหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 โดย นายกล้านรงค์ ได้กล่าวถึง การคดีกับกรณีของ พระรักเกียรติ เมื่ออดีตที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างให้แก่กลุ่มนักศึกษา
โดยพระรักเกียรติ ได้กล่าวถึงการเมืองภายในอดีตว่า เป็นวงจรอุบาทว์ ที่กลุ่มการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ ตอบแทนกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุน และเตรียมเงินทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ และการปฏิรูปการเมือง เมื่อปี 2540 ได้ให้อำนาจองค์กรอิสระในการตรวจสอบนักการเมืองมากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับนักการเมืองได้ จนเป็นเหตุให้ตนเอง ต้องถูกจำคุกในขณะนั้น แต่หลังจากนั้น ได้มีการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว นักการเมือง สามารถหลบหนีการจับกุมได้ และถูกจำคุกมีเพียงจำนวนน้อย จึงทำให้นักการเมือง ไม่กลัวเกรงการถูกดำเนินคดี และการเมืองในปัจจุบันเห็นว่า ฝ่ายการเมือง ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคพวกของตนเอง และแทรกแซงองค์กรอิสระที่ทำการตรวจสอบ ไม่ให้มีประสิทธิภาพ จึงเห็นว่า ควรมีการปฏิรูปประเทศให้ขจัดความทุจริตออกไปให้ได้ เพื่อพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยพระรักเกียรติ ได้กล่าวถึงการเมืองภายในอดีตว่า เป็นวงจรอุบาทว์ ที่กลุ่มการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์ ตอบแทนกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุน และเตรียมเงินทุนสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ และการปฏิรูปการเมือง เมื่อปี 2540 ได้ให้อำนาจองค์กรอิสระในการตรวจสอบนักการเมืองมากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับนักการเมืองได้ จนเป็นเหตุให้ตนเอง ต้องถูกจำคุกในขณะนั้น แต่หลังจากนั้น ได้มีการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้ว นักการเมือง สามารถหลบหนีการจับกุมได้ และถูกจำคุกมีเพียงจำนวนน้อย จึงทำให้นักการเมือง ไม่กลัวเกรงการถูกดำเนินคดี และการเมืองในปัจจุบันเห็นว่า ฝ่ายการเมือง ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคพวกของตนเอง และแทรกแซงองค์กรอิสระที่ทำการตรวจสอบ ไม่ให้มีประสิทธิภาพ จึงเห็นว่า ควรมีการปฏิรูปประเทศให้ขจัดความทุจริตออกไปให้ได้ เพื่อพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!