สมจิตต์-ช่อง7แจงถูกห้ามทำข่าวปู

สมจิตต์-ช่อง7แจงถูกห้ามทำข่าวปู

'กมธ.พัฒนาการเมือง' เรียก 'สมจิตต์-ช่อง7'แจง หลังถูกห้ามไปทำข่าวประชุมอาเซียน

25 เม.ย.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณากรณีการกรณีที่สำนักโฆษกระงับการเดินทางไปกัมพูชาเพื่อปฏิบัติภารกิจทำข่าวนายกรัฐมนตรีร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน 2555 ของ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในฐานะทีมทีวีพูลล่วงหน้า โดยได้เชิญ น.ส.สมจิตต์ และนายสมโภชน์ โตรักษา ผู้ช่วยหัวหน้ากองบรรณาธิการข่าวช่อง 7 พร้อมนางปรารถนา สุทิน ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ

ทั้งนี้ นายสมโภชน์ กล่าวว่า ช่อง 7 ได้รับมอบหมายจากทีวีพูลให้ติดตามภารกิจนายกรัฐมนตรี โดยปกติการส่งทีมข่าวติดตามภารกิจจะมีสองทีมคือ ทีมล่วงหน้าและทีมที่เดินทางพร้อมคณะ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นคิวของ น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นทีมล่วงหน้าเดินทางไปกับ นายชรัส จรรยา ช่างภาพ ส่วนอีกทีมจะเดินทางขึ้นเครื่องพร้อมนายกรัฐมนตรี คือ นายเจษฎา อุปนิ และช่างภาพ ซึ่งรายชื่อทั้งหมดส่งให้กองงานโฆษกประสานกระทรวงการต่างประเทศไปยังกัมพูชาเรียบร้อยหมดแล้ว โดยได้รับการตอบรับให้เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เช่นกัน ทั้งนี้ กองงานโฆษก แจ้งมาที่ว่า ทุกอย่างเรียบร้อยสามารถออกตั๋วเครื่องบินในวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นเท่ากับว่ารายชื่อของทีมข่าวสามารถเดินทางเข้ากัมพูชาได้อย่างถูกต้อง และตามปกติการการสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับภารกิจการประชุมอาเซียน และการหารือทวิภาคี โดยทางสำนักโฆษกจะสรุปภารกิจให้เป็นแนวคำถามกับทีมข่าว

นายสมโภชน์ ระบุต่อว่าภายหลังจากที่ น.ส. สมจิตต์ ได้สัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี ผู้บริหารช่อง 7 สองคนได้แจ้งตนว่า มีนักการเมืองในรัฐบาล โทรหาเพื่อขอให้ยกเลิกการส่ง น.ส.สมจิตต์ ไปปฏิบัติภารกิจนี้ ตนจึงสอบถามถึงเหตุผล และได้รับคำตอบว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาลขอมา อย่างไรก็ตามตนได้ยืนยันในฐานะผู้ช่วยหัวหน้ากองบรรณาธิการและผู้บังคับบัญชาว่า นี่คือการบริหารจัดการภายในของช่อง 7 และเป็นคิวของ น.ส.สมจิตต์ จึงไม่มีเหตุผลที่จะยอมให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงระงับการเดินทางของทีมข่าว จึงทางผู้บริหารก็รับฟัง แต่หลังจากนั้นสองวันก็มีหนังสือจากสำนักโฆษกระงับการเดินทางของทีมล่วงหน้าอ้างว่า กัมพูชามีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนสื่อมวลชนและการดูแลรักษาความปลอดภัย

"สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองอย่างชัดเจน และยืนยันกับผู้บริหารให้ว่า น.ส.สมจิตต์ไปทำข่าว แต่ด้วยข้อจำกัดในฐานะเป็นสมาชิกทีวีพูล เป็นพนักงานช่อง 7 ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของผู้บริหาร ตนมั่นใจในตัว น.ส.สมจิตต์ ว่ามีความเป็นมืออาชีพที่สามารถทำหน้าที่ได้โดยไม่บกพร่อง ซึ่งตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 10 ปี น.ส.สมจิตต์ ไม่เคยมีประวัติถูกร้องเรียนเรื่องผลประโยชน์และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพมาตลอด จึงไม่มีเหตุผลที่การเมืองจะเข้ามาแทรกแซงเช่นนี้" นายสมโภชน์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.สมจิตต์ ได้นำหลักฐานการแจ้งยกเลิกคณะสื่อมวลชนทีมล่วงหน้าที่ทำถึงประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยที่ลงนามโดย นางปรารถนา สุทิน ผู้อำนวยการสำนักโฆษก และเอกสารของกลุ่มงานวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก เกียวกับแนวคำถาม-คำตอบสำหรับนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ทีวีพูล (ช่อง 7) ซึ่งมีการระบุถึงการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลซึ่งจะให้คณะกรรมการที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชาเป็นประธานเจรจา มามอบต่อกรรมาธิการฯด้วย พร้อมกับชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่รอการสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามว่า "คนที่ชื่อสมจิตต์มาหรือไม่" ซึ่งตนก็ตอบไปว่า มาแล้ว

น.ส.สมจิตต์ กล่าวต่อว่า จากนั้นประมาณ 15 นาที เลขาส่วนตัวและนายเวรนายกรัฐมนตรี ก็เดินเข้ามาหา ซึ่งก็ทักทายตามปกติแต่ไม่ได้พูดคุย ก่อนที่ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาทักทาย และในระหว่างการสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงน่าจะทราบดีว่า รายละเอียดของเหตุการณ์เป็นอย่างไร แต่กลับมีการกล่าวหาตนผ่านทวิตเตอร์ที่ตอบคำถาม นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ประจำทำเนียบรัฐบาลว่า ตนมีอคติ ไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีและตั้งคำถามโดยไม่ทำการบ้าน

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กรรมาธิการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า องค์กรสื่อน่าจะมีวิธีการปกป้องการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนได้มากกว่าแค่การออกแถลงการณ์แล้วจบไป โดยไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ

นายสุพล ฟองงาม ที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่ช่อง 7 ไม่นำเสนอข่าวนายกรัฐมนตรีในช่วงวันสงกรานต์เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรพาดพิงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะจะถูกมองได้ว่าเป็นเรื่องการเมือง ทำให้นายสมโภชน์ ชี้แจงว่า การตัดสินใจไม่นำเสนอข่าวนายกรัฐมนตรีในช่วงสงกรานต์เป็นสิทธิและดุลพินิจของช่อง 7 ซึ่ขณะที่นางสาวสมจิตต์ ระบุว่า การพูดชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการถึงการแทรกแซงสื่อในแต่ละยุคที่ตนได้ประสบเท่านั้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์