วานนี้ (23 เม.ย.) ที่กระทรวงแรงงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการนำครม.เข้าขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ ว่า จะพาไปเฉพาะในส่วนของรองนายกรัฐมนตรี เพราะหลังจากที่ พล.อ.เปรมได้มาร่วมงาน “รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย” เราก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปขอบคุณท่าน จึงจะถือโอกาสนี้ซึ่งเป็นช่วงวันสงกรานต์ ไปขอรับพรจากพล.อ.เปรมในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านเมือง การเดินทางเข้าพบพล.อ.เปรมครั้งนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อเข้าไปขอพรจากท่านมากกว่า เพราะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นประเพณีของไทย
เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงบางส่วนอาจมองว่าจุดยืนของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนไปกับการที่พา ครม.เข้าพบ พล.อ.เปรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ต้องเรียนว่าตั้งแต่วันแรกที่ดิฉันได้หาเสียงไว้ ก็อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าเพื่อความปรองดอง และเราก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ซึ่งสำหรับ พล.อ.เปรมนั้น ท่านถือเป็นรัฐบุรุษที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เราก็ยินดีที่จะน้อมรับฟังคำแนะนำจากท่าน และทุกภาคส่วน เพราะเป็นสิ่งที่เราอยากเห็น โดยเฉพาะอะไรที่ทำให้บรรยากาศของบ้านเมืองก้าวไปสู่ข้างหน้าด้วยกัน วันนี้ต่างชาติเองก็ให้การยอมรับว่าประเทศไทยก็เริ่มเข้าไปสู่โหมดของความสามัคคีปรองดอง”
เมื่อถามว่าเหตุที่ต้องไปพบพล.อ.เปรม เป็นเพราะถ้าไม่ไปพบแล้ว การปรองดองจะไม่เดินหน้าใช่หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ความจริงแล้ว พล.อ.เปรมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง อย่างที่เห็น กระบวนการทางการเมืองต่างๆ เป็นหน้าที่ของรัฐสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองและแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน.