นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า คิดว่าในขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายกำลังออกแบบจัดฉากปรองดอง ด้วยการรุกเร่งจะกลับบ้าน
โดยโวหารเลิกทะเลาะกัน ไม่มีขั้ว ไม่มีเหลืองแดง ที่เคยด่าป๋าเปรมแบบสาดเสียเทเสียก็กลับมาชื่นชมจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อล่อลวงสังคมให้หลงกลคล้อยตาม และตกหลุมพรางบ่อปรองดองที่เครือข่ายของพ.ต.ท.ทักษิณขุดล่อเอาไว้ เข้าตำรามือสากปากถือศีล
สาเหตุที่พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเล่นเกมเร็วเพราะเงื่อนไขในสภาฯ ที่กุมเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จเป็นฝ่ายพับสนามบุกด้านเดียว การผลักดัน พ.ร.บ.ปรองดอง หรือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่มีปัญหาเรื่องจำนวนเสียง และเงื่อนไขที่รอช้าไม่ได้ คือ ขาลงของรัฐบาลน้องสาวที่หลายนโยบายล้มเหลว และไม่สามารถปฏิบัติได้ตามที่หาเสียง และปัญหาข้าวยากหมากแพง แต่พืชผลการเกษตรกลับตกต่ำสวนทางกัน และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น มาตรการต่างๆ ของรัฐบาลเอาไม่อยู่คุมสถานการณ์ไม่ได้ ความนิยมในตัวน้องสาวโดยเฉพาะภาวะผู้นำดงดิ่งเหวรายวัน ซึ่งหากปล่อยไปเนิ่นนานหรือรอให้น้องสาวฟื้นความนิยมสร้างความเชื่อมั่นคงหมดโอกาสและหนทางกลับบ้านของ พตท.ทักษิณ ก็มืดมิดตามไปด้วย
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า นัยยะกลับบ้านอย่างเท่ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีอะไรใหม่เป็นมุกเก่ากดดันเจ้า และดึงสถาบันมาอยู่ในเกมเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเวทีปราศรัยของเสื้อแดงที่เขมร พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และมีความหวังว่าจะได้กลับไปอยู่บ้าน ก็เป็นการยืนยันว่ากลับบ้านอย่างเท่ๆ คืออะไร วาทกรรมปรองดองฉบับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เขมร หากติดตามดูดีๆ จะพบว่าเป็นปรองดองฉบับมือถือสากปากถือศีล ด้านหนึ่งพูดจาขอปรองดองกับคนนั้นคนนี้ แบบนอบน้อมมีคารวะ แต่ด้านหนึ่งก็เปลือยธาตุแท้เช่น การบอกว่าใครไม่ปรองดองก็ช่วยไม่ได้ หรือช่างแม่มัน แม้แต่ในช่วงร้องเพลงบนเวทีตัวตนจริงๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นก็หลุดออกมาเป็นระยะๆ