เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 มีนาคมที่รัฐสภา อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคมาตุภูมิ (มภ.)
สมาชิกพรรคและเพื่อนร่วมรุ่นคณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหงประมาณ 15 คน ได้เดินทางมามอบดอกกุหลาบสีแดงเพื่อให้กำลังใจ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรค มภ.ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางปรองดองแห่งชาติ หลังถูกฝ่ายค้านถล่มหนักกลางที่ประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมตะโกนว่า "สู้ๆ"
โดย พล.อ.สนธิกล่าวกับคณะที่มาให้กำลังใจว่า มีความตั้งใจสูงสุดในการทำให้บ้านเมืองเดินหน้าเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงทุกฝ่ายมีความรักและสามัคคีกัน
ทั้งนี้ ผู้ให้กำลังใจรายหนึ่งได้สอบถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูก ส.ส.ล้อมกรอบกลางห้องประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พล.อ.สนธิหัวเราะก่อนตอบว่า กำลังนั่งทำดุษฎีนิพนธ์อยู่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็มากันเต็มแล้ว แต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เข้าใจว่าเป็นวัฒนธรรมทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่มีเข้าข้างใคร ไม่มีใครอยู่ข้างหลัง เป็นตัวของตัวเอง
พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณารายงานการสร้างความปรองดองแห่งชาติของ กมธ.ปรองดอง ในวันที่ 4 เมษายน ว่า
ตั้งใจจะสื่อสารความจริงให้ครบ เรามีหน้าที่ทำงาน ก็ทำตามวัตถุประสงค์และขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนจะมีการแก้ไขรายงาน 54 แผ่นของ กมธ.ปรองดองหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) จะต้องดูแลให้เกิดความรอบคอบ ไม่ใช่อะไรๆ ก็ให้ประธานทำทุกเรื่อง แต่ทั้งนี้การพิจารณาก็ควรจะดูเนื้อหาในรายงานฉบับเต็มที่สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้จัดทำด้วย ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่าเป็นรายงานเถื่อนนั้น อยากบอกทุกคนว่าให้อ่านเนื้อหาในรายงานให้ดี อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ใครพูด ขอให้ ส.ส.ทุกคนยึดหลักกาลามสูตร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดเหตุถูกถล่มกลางสภาจะขอให้ กมธ.คนอื่นๆ มาช่วยเหลือประธานหรือไม่ในวันที่ 4 เมษายน
พล.อ.สนธิกล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่ กมธ.ทุกคนต้องมีส่วนร่วมกันอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ตอนเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อ 5 ปีก่อนมีแต่คนเกรงขาม แต่ปรากฏการณ์ในรัฐสภาวานนี้เป็นเรื่องตรงข้ามเลย ลึกๆ รู้สึกอย่างไร พล.อ.สนธิกล่าวว่า "ก็มันการเมือง การเมืองกับการทหารคนละเรื่องกัน ไม่มีปัญหา จะได้เรคคอร์ด (บันทึก) ไว้ว่าการเมืองเป็นอย่างนี้ นี่คือการเมือง"