วันนี้(27มี.ค.)ในการประชุมรัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธาน กมธ.ปรองดอง
ได้ยกมือขอชี้แจงในสภาฯว่า ตลอดเวลาตนจะไม่เคยพูดอะไรในห้องประชุมแห่งนี้ที่ถือเป็นสถานที่ที่มีเกียรติ ทุกครั้งที่มีการอภิปราย จะเห็นว่าตนไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงแก้ตัวใดๆ ความจริงที่ไม่ปรากฏในวันนี้แต่อาจจะปรากฏเมื่อใดก็ได้ แต่สำคัญว่าจิตใต้สำนึกเราว่าเป็นสิ่งที่เราปั้นกันขึ้นมาหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้อาสาเข้ามาเป็นประธานกมธ.ปรองดอง ด้วยตัวของตัวเอง ตนมีที่มาจากดินทำทุกอย่างในชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อบ้านเมือง เมื่อสักครู่หลายคนได้เดินมาที่หน้าตนและระบุว่าที่ผ่านมาได้ชื่นชมแต่วันนี้หมดแล้วสิ่งที่ได้ชื่นชมวันนั้น นี่คือความจริงที่ปรากฎทุกคนจะได้รู้จักตนว่าในแก่นแท้มีหลายอย่างที่ยังไม่รับทราบ
“ผมเห็นบ้านเมืองมีความแตกแยกครั้งแล้วครั้งเล่า วันที่ 19-20 ก.ย.2549 จะฆ่ากันอยู่ ผมวางคออยู่บนเขียง ถามว่าใครรับผิดชอบ ผู้ใหญ่ทางฝ่ายค้านก็รู้เรื่องนี้ดีว่าผมอาสาทำ ความขัดแย้งต่อเนื่องมาถึงวันนี้ต้องถามว่าผู้นำเราแต่ละคนมีความตั้งใจจะสร้างสังคมเป็นสังคมของความรักหรือไม่ จนถึงวันนี้มีนายกรัฐมนตรีผ่านมา 5 คนสถานการณ์ก็ยังเป็นแบบเดิม ผมเสียใจที่พี่น้องประชาชนไทยเห็นผมและเพื่อนๆทุกคนที่นี่กำลังทำอะไรกันอยู่ ความขัดแย้งมันไม่ได้มีข้างนอกเลย มันอยู่ในนี้และขยายไปข้างนอก”พล.อ.สนธิ กล่าว
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนพยายามคุยกับสมาชิกหลายๆคนให้มาช่วยสนับสนุนตนในการเดินหน้ากระบวนการปรองดอง
โดยรู้ว่าการจะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จนั้นต้องมีการล็อบบี้กับทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งฝ่ายรัฐบาลได้การสนับสนุนตนจนนำไปสู่การยื่นญัตติเพื่อตั้งกมธ.ปรองดอง โดยกระบวนการทุกอย่างเป็นไปด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ความปรองดองเกิดขึ้นจริง ซึ่งหลังที่สถาบันพระปกเกล้าส่งผลวิจัยมาให้กมธ.ปรองดองนั้น มีเรื่องของคตส. ซึ่งนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ระบุว่ากมธ.ไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์แต่ควรนำเรื่องนี้มาพูดคุยและวิเคราะห์กัน ตนจึงขอให้ทุกคนลงความเห็นว่ามีข้อคิดอะไรเสนอใครจะเอาอย่างไร แต่ยืนยันว่าเราจะไม่ลงมติ
“หลายคนคิดว่าสถาบันพระปกเกล้าเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคล และคิดว่าความคิดของฉันถูกของสถาบันพระปกเกล้าผิด ถามว่าผลงานเชิงวิชาการจะผิดได้อย่างไร เมื่อผลการวิจัยเป็นอย่างไรกมธ.ก็ต้องส่งเอกสารทั้งหมดเข้าสู่สภา แต่ถ้ามาคุยกันอีกในภายหลังก็จะเกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น ท่านหัวหน้าฝ่ายค้าน ผมเคารพรักท่าน ฝ่ายค้านทุกท่านรู้ว่าผมรักท่านมากแค่ไหน ผมมีเจตนาดี อยากเห็นความปรองดอง จึงส่งผลวิจัยทั้งหมดเข้าสภาโดยเร็วที่สุดในชีวิต”พล.อ.สนธิกล่าว